In Bangkok

เขตคลองเตยเอาจริงแจงรื้อถอนกำแพง ซอยสุขุมวิท38และ40ตามกฎหมาย



กรุงเทพฯ-นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม.กล่าวกรณีเจ้าของที่ดินยื่นคัดค้านการรื้อถอนกำแพงกั้นทางเชื่อมเข้า-ออกระหว่างซอยสุขุมวิท 38 และซอยสุขุมวิท 40 ว่า สำนักงานเขตคลองเตย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมีการก่อสร้างกำแพงรุกล้ำทางสาธารณประโยชน์ที่มีสภาพใช้สอยมานานกว่า 10 ปี จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดย กทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการสอบสวนเกี่ยวกับการบุกรุกที่ หรือทางสาธารณประโยชน์ พ.ศ.2539 ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ถนนซอยสุขุมวิท 38 เป็นถนนสำหรับประชาชนใช้ร่วมกัน หรือใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ และประชาชนได้ใช้ประโยชน์เป็นเวลานานเกินกว่า 10 ปี โดยไม่ได้มีการหวงห้ามและเป็นที่รู้ทั่วไปของประชาชน ซึ่ง กทม.ได้ทำทะเบียนเป็นถนนซอยสุขุมวิท 38 (ซอยสันติสุข) ต่อมาสำนักงานเขตฯ ได้มีคำสั่งถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท ซันซายน์แลนด์ จำกัด นายแมน นานา และนายสมศักดิ์ นานา ขอให้รื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ให้พ้นจากที่อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินในซอยสุขุมวิท 38 ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 44 ซึ่งนายแมน และนายสมศักดิ์ นานา ได้ขออุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งยกอุทธรณ์

ต่อมาสำนักงานเขตฯ ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 เรื่อง คำสั่งรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ให้พ้นจากที่อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซอยสุขุมวิท 38 โดยทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้มีหนังสือขอให้ยุติการรื้อถอนกำแพงไว้ชั่วคราวจนกว่าคดีถึงที่สุด เนื่องจากศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ นำโดยหัวหน้าฝ่ายโยธาและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจพร้อมผู้รับจ้างได้เข้ารื้อถอนกำแพง ค.ส.ล.บริเวณปลายซอยสุขุมวิท 38 และได้พบกับทนายผู้รับมอบอำนาจ มวลชน และผู้สื่อข่าวอยู่ในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งยังมีรถยนต์จอดขวางอยู่บริเวณหน้ากำแพง จากการสอบถามประชาชนบริเวณนั้นว่ารู้จักเจ้าของรถดังกล่าวหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดทราบ จากนั้นทนายความผู้รับมอบอำนาจได้ประกาศว่า หากผู้ใดรื้อถอนจะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคน สำนักงานเขตฯ จึงไม่สามารถเข้ารื้อถอนกำแพงได้ ประกอบกับผู้แทนผู้รับจ้างได้แจ้งด้วยวาจากับหัวหน้าฝ่ายโยธาว่า ประสงค์จะยกเลิกสัญญา เนื่องจากเกรงว่า จะถูกดำเนินคดี หรืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้รับจ้าง อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเป็นผู้แทนไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งมีหนังสือหารือสำนักงานกฎหมายและคดี กทม.ถึงแนวทางปฏิบัติสำหรับการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป