Travel & Entertain

ททท.เกาะสมุยชี้ปี66ผู้มาเยือนเกาะสมุย 3.5ล้านคนพุ่ง43.67%ต่างชาติแซงไทย



สุราษฏร์ธานี-ผอ.ททท.เกาะสมุย เผยตัวเลขปี 2566 ผู้มาเยือนเกาะสมุย 3,541,821คน เพิ่มขึ้น 43.67% เป็นชาวไทย 1,767,415 คน ต่างชาติ 1,774,406 ล้านคน นำรายได้เข้าพื้นที่ 60,814.33 ล้านบาท  โดย เยอรมัน อังกฤษ อิสราเอล จีนและฝรั่งเศส เป็นผู้มาเยือนเกาะสมุยมากที่สุด

นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเกาะสมุย เปิดเผยสถานการณ์การท่องเที่ยวพื้นที่เกาะสมุย ว่าปี 2566 ปี 2566 ผู้มาเยือนเกาะสมุย 3,541,821คน เพิ่มขึ้น 43.67% เป็นชาวไทย 1,767,415 คน ต่างชาติ 1,774,406 ล้านคน นำรายได้เข้าพื้นที่ 60,814.33 ล้านบาท  โดย เยอรมัน อังกฤษ อิสราเอล จีนและฝรั่งเศส เป็นผู้มาเยือนเกาะสมุยมากที่สุด  ส่งผลให้จำนวนห้องพักที่มี 23,668 ห้อง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 5.29 วัน และมีการใช้จ่ายต่อทริปของชาวต่างชาติที่ 25,739บาท/คน ขณะที่คนไทย 14,140บาท/คน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะที่การท่องเที่ยวจากเรือสำราญที่เข้ามาจอดเทียบท่าเกาะสมุยว่ามีจำนวน  35 ลำ ผู้โดยสาร 43,956 คนและลูกเรือ 23,154 คน 

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเกาะสมุย  กล่าวต่อว่า จากสถิติดังกล่าว ทาง ททท.เกาะสมุย จึงได้จับมือผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมการท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่สามเกาะ (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า)  กว่า 80 ราย มาร่วมวางแผนการตลาด พร้อมกับเชิญภาคีเครือข่ายวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดนักท่องเที่ยวจีน Digital Marketing และผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญ จัดกิจกรรมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการส่งเสริมตลาดและกระตุ้นค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์และวางแผนการส่งเสริมการตลาด เตรียมตัวดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดจีน และตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือสำราญ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีศักยภาพ มีการจับจ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่แล้ว จะทำอย่างไรให้เกิดการใช้จ่ายให้มากที่สุด  ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่นอกจากจะต้องมีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ตรงแล้ว ก็ต้องมีการทำตลาด Digital Marketing ควบคู่กันไปด้วยซึ่งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาให้ความรู้ จะทำให้เกิดการวางแผนและจะชูตลาดท่องเที่ยวของเกาะสมุยให้เกิดการเข้าถึงทางออนไลน์ได้มากขึ้น.