Digitel Tech & AI
สกสว.เผยวิสัยทัศน์SRI for ALL 5ปี แห่งความสำเร็จกับการขับเคลื่อนไทย
กรุงเทพฯ-สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ ธนาคารโลก The World Bank Group ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในระดับนานาชาติ จัดงาน “ทิศทางวิจัย X นวัตกรรมไทย 2568” ในวาระครบรอบ 5 ปี ของการดำเนินงานของระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ นับเป็นเวทีใหญ่แห่งปี 2567 ของวงการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย
ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้เผยถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการขับเคลื่อนไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ว่า สกสว. มุ่งเน้นการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา และเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศบนฐานองค์ความรู้จากการวิจัยและนวัตกรรม โดยมีแผนและงบประมาณเป็นกลไกสำคัญ ซึ่งครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนเปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักธุรกิจ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม หรือประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ “SRI for ALL” ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์และแผนด้าน ววน. 2) การบริหารจัดการองค์กร และ 3) การบริหารจัดการกองทุน มีหัวใจสำคัญคือบุคลากรของ สกสว. ทุกคน
ศ. ดร.สมปอง กล่าวว่า สกสว. มุ่งส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสหวิทยาการ เพื่อสร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุนการนําผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยประกอบด้วย 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากำลังคน รวมทั้งยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการของประเทศ 2) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพ และปัจจัยเอื้อที่สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม 3) ส่งเสริมให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศหรือโครงการลงทุนที่รัฐ เห็นสมควรกำหนดเพื่อพัฒนาพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 4) สนับสนุนการเพิ่มสมรรถนะในการเลือก การรับ การถ่ายทอด และการร่วมมือกับบุคคลหรือหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อให้ได้วิทยาการและเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพเหมาะสม 5) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม หน่วยงานอื่นของรัฐและเอกชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการทำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาระดับชุมชนและพื้นที่ 6) บุกเบิกการวิจัยขั้นแนวหน้าและการสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
“และสิ่งที่เป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนระบบ ววน. คือการ “หาเงินได้ ใช้เงินเป็น เห็น Impact” อีกทั้งการทำงานร่วมกันกับพาร์ตเนอร์ก็นับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง อย่างในปัจจุบันที่ได้ร่วมทำงานกับเวิลด์แบงก์ ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ระดับนานาชาติ ทำให้เราสามารถหากลไก กระบวนการ และวางแผนทิศทางในการลงทุนต่อไปได้ เป็นความเติบโตก้าวหน้าของประเทศโดยอาศัย SRI ในการสร้างนักวิจัยและการทำงานร่วมกันแบบพาร์ตเนอร์นั้นเชื่อมโยงถึงความหมายของการ“ถักทอสานพลัง” เป็นการผสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างไร้รอยต่อด้วยกลยุทธ์ “SILK” คือ กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของ สกสว. มุ่งสร้างผลกระทบเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนด้าน ววน. ของประเทศและในระดับสากล ประกอบด้วย S คือ SYNERGY & BOUNDARYLESS : การสานพลัง Stakeholder & Strategic Partner I คือ INTELLIGENT SRI SYSTEM : ยกระดับระบบ SRI รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ Intelligence และโปร่งใส L คือ LEAP TECHNOLOGY INVESTMENT : มุ่งเน้นการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมายและสร้าง New S-Curve และ K คือ KNOWLEDGE GOVERNANCE – SRI FOR ALL : สร้างระบบ/แพลตฟอร์มเพื่อนำความรู้ของระบบ ววน. ไปใช้ ทั้งนี้ สกสว. พร้อมขับเคลื่อนฉากทัศน์ใหม่เพื่อพลิกโฉมประเทศสู่อนาคต” ผอ.สกสว. กล่าวทิ้งท้าย