In Thailand
'เครือข่ายเลี้ยงโคเนื้อ4จังหวัด'รวมตัวกัน หาทางแก้ไขราคาโคเนื้อตกต่ำยั่งยืน

ชัยภูมิ-ข่าวดีๆ ใครกำลังเลี้ยงโคเนื้อตามบ้าน ตามฟาร์มฟังทางนี้ ภาคเอกชน จับมือเครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อไทย เสนอทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ และพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ใช้นวัตรกรรมเลี้ยงโคขุนอัตลักษณ์ สร้างเนื้อวัวพรีเมี่ยมแช่แข็ง ส่งออกและแปรรูปเป็นหม่ำ และผลิตภัณฑ์อื่นๆจำหน่ายในประเทศ พร้อมเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล มาเป็นทุนขับเคลื่อนทุกมิติ
ดร.อำนาจ ภิญโญศรี ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้เสี้ยงโคเนื้อไทย พร้อมด้วย นายกิตติพัทธ์ เทียบประทานพร กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามปีฟ จำกัด นำคณะลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ประชุมพบปะกับเครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อ4 จังหวัด ได้แก่ชัยภูมิ ขอนแก่น เพชรบูรณ์ และราชบุรี ณ ห้องประชุมสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ ในวันนี้ วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 – 12.00 น. เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องโคเนื้อมีชีวิตของเกษตรกรที่เลี้ยงในบ้าน หรือเลี้ยงในฟาร์ม มีราคาตกต่ำ ไม่แน่นอน บางครั้งถูกพ่อค้าคนกลางปั่นราคา ต้องตัดใจขายออกไปทั้งที่รู้ว่าไม่คุ้มทุน ตอนนี้วัวมีชีวิตขายกันในราคาประมาณ 60-65 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งแทบไม่ได้กำไร หากสามารถทำให้ราคาขยับขึ้นมาที่ 70-90 บาทต่อกิโล จะทำให้เกษตรกรอยู่ได้
โดยเสนอทางเลือกให้กับเกษตรกร ที่มีโคเนื้อสายพันธุ์ต่างๆ รวมกลุ่มกันผลิตโคขุนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น และแปรรูปเนื้อแช่แข็งคุณภาพ เกรดพรีเมี่ยม ส่งออกต่างประเทศ หรือทำเป็นเนื้อพรีเมี่ยมสเต๊ก แปรรูปเป็นหม่ำพรีเมี่ยมมีอัตลักษณ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยทางเครือข่ายผู้เสี้ยงโคเนื้อไทย ร่วมกับบริษัทสยามปีฟ จำกัด ซึ่งมีฟาร์มตัวอย่าง ในพื้นที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีราชบุรี ถือเป็นเจ้าแรกของเมืองไทยที่ภาคเอกชนร่วมกับภาครัฐ พัฒนาโคเนื้อสู่เนื้อแช่แข็งพรีเมี่ยม มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ และมีผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายแล้ว จึงออกมาสร้างเครือข่ายร่วมมือกันผลิตเพื่อส่งออกให้มากขึ้น โดยทางเครือข่ายผู้เสี้ยงโคเนื้อไทย จะเป็นตัวกลาง ขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัด ถ่ายทอดเทคโนโลยีในการเลี้ยง การให้อาหารซึ่งเป็นหัวใจของการเลี้ยงโคขุน แต่พื้นที่มีอาหารไม่เหมือนกัน ดังนั้นรสชาด กลิ่นของเนื้อ จะแตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น รวมถึงประสานภาคเอกชน ในการรับซื้อโคมีชีวิต ในราคาเป็นธรรม และแปรรูปเป็นเนื้อแช่แข็ง เกรดพรีเมี่ยม ส่งออกต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อผู้ประกอบการได้ออร์เดอร์มาแล้ว ต้องมีวัตถุดิบในมือ ที่ตรงตามสเปค
จุดนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ฝ่ายการศึกษา ส่วนราชการ รวมถึงสถาบันการเงิน ที่สำคัญคือเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่หลงกลพ่อค้าคนกลาง ที่มาดรั้มราคาให้เสียกลไกการผลิต ซึ่งโคทุกตัว ที่ร่วมโครงการ จะต้องลงทะเบียนฝังชิ้ปที่ใต้ใบหู คู่ค้าต่างประเทศสามารถเห็นวัวเป็นๆแบบเรียวไทม์ได้โดยโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบสต๊อกของเรา ก่อนที่จะตัดสินใจทำสัญญาซื้อขาย
นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรจะต้องมีคอกกลาง บริหารจัดการโคเนื้อได้เอง เชื่อมโยงกับตลาดแปรสภาพโค มีการบริหารจัดการเนื้อโคที่แปรสภาพแล้ว ทุกอย่างต้องมีการลงทุน มีการบริหารจัดการที่ดี หากรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ มาดำเนินโครงการนี้ เชื่อว่าจะเกิดความยั่งยืนให้เกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อได้
ดร.อำนาจ ภิญโญศรี ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้เสี้ยงโคเนื้อไทย เปิดเผยว่าวันนี้เกษตรกร 4 จังหวัด ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว ทุกจังหวัดเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชัยภูมิ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียง การทำหม่ำ เนื้อพรีเมี่ยมอัตลักษณ์ตัวนี้ จะเป็นวัตถุดิบสำคัญ ในการยกระดับหม่ำชัยภูมิ สู่หม่ำโลกได้ ซึ่งจากนี้ไปทุกจังหวัดจะไปเชิญชวนให้เกษตรกรสมัครใจ เข้าร่วมโครงการ ขณะเดียวกันก็จะขับเคลื่อนมิติอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ก็ฝากถึงเกษตรกรว่า จุดนี้เป็นช่องทางสว่าง ในการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพียงท่านไปลงทะเบียนกับเครือข่าย เลี้ยงโคให้ดี มีคุณภาพพร้อมฝากถึงรัฐบาล ให้ช่วยพิจารณาสนับสนุนงบประมาณดำเนินการด้วย เนื่องจากเป็นสิ่งที่เกิดจากการระดมสมองของทุกฝ่ายมาแล้ว จนได้ข้อสรุปว่าวิธีนี้เป็นวิธีดีที่สุด และเริ่มขับเคลื่อนครั้งแรกในวันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ สภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ โทร.083-4686686////////////จบ
ชาติชาย สงวนรัมย์