In News

นายกฯให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.วันนี้ เงินดิจิทัลเฟส3-ถกภาษีมะกัน-เหตุจชต.



​ครม. ไฟเขียวอนุมัติงบกลางวงเงิน 2,049.69 ล้านบาท ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นที่ได้รับความเสียหายจากอทุภัย พร้อมเห็นชอบมาตรการดูแลสุขภาพจิต ผ่านโครงการ พฤษภาคม เดือนแห่งสุขภาพจิต (Mind Month) และได้สั่งการ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ภาคใต้ เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยให้ประชาชน ย้ำ ประเด็นความรุนแรง ไม่ปล่อยผ่าน ผู้กระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ​นายกฯ ชี้แจง ยืนยัน การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ยังอยู่ในกรอบ 90 เตรียมการทุกอย่าง อย่างครอบคลุม ยืนยัน ทุกอย่างไม่ใช่ความลับแต่ต้องรอช่วงเวลที่เหมาะสม ก่อนชี้แจงประเด็น และยังได้ชี้แจง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3 ครม. ยังไม่พิจารณา ย้ำ ต้องรับฟังความเห็นอย่างถี่ถ้วนจากทุกหน่วยงาน เผย รัฐบาลมีความตั้งใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังไม่ล้มเลิกโครงการ

อนุมัติงบกลาง2พันล.ซ่อมถนน-สะพานเสียหายจากน้ำท่วม

วันนี้ (6 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 11.35 น.  ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอในการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,049.69 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 17 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท   ได้แก่จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย เลย ภูเก็ต ยะลา พิษณุโลก อุดรธานี หนองคาย และกาญจนบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาเส้นทางถนนที่ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ที่ใช้เส้นทาง

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ได้ประชุม ครม. ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเรื่องของการขอความเห็นชอบกำหนดให้เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งสุขภาพใจ (Mind Month)  ภายใต้แนวคิดสุขภาพใจเป็นเรื่องของทุกคนโดยกรมสุขภาพจิตจะมีการดำเนินโครงการร่วมกับเครือข่ายใน 4 ประเด็นหลักดังนี้ 1. การลดการตีตรา (Stigma) ทางสุขภาพจิตช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงบริการและการเปิดเผยปัญหาสุขภาพจิตของประชาชน 2. การสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ทำให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพจิตของตนและคนรอบข้าง ช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพจิตตั้งแต่เริ่มต้น 3.การเข้าถึงบริการสุขภาพจิต (How to seek help) ช่วยให้ประชาชนที่มีปัญหาสุขภาพจิตเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงการสูญเสียชีวิตหรือผลกระทบทบทางสังคมอื่น ๆ และ 4. การสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Safe Space) สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปสามารถพูดคุย ปรึกษา และได้รับความช่วยเหลือในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร เปิดกว้าง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนที่ ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวเสนอแนวทางความร่วมมือการจัดทำแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตามแนวทางที่รับมอบหมายเพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่จะเพิ่มรายได้และช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่ต่างประเทศมีความผันผวนโดยมุ่งเน้นการบูรณาความร่วมมือพันธมิตรทุกภาคส่วน ในการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ สายการบิน โรงแรมและที่พักอาศัย ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ด้านระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และด้านการจัดการEvent

นายกฯสั่งการเพิ่มกำลังลงใต้ความรุนแรง ไม่ปล่อยผ่าน

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้เกิดขึ้นว่า ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยรัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรงในทุกรูปแบบ และจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ได้เกิดขึ้น ทั้ง รัฐบาล ตำรวจ และทหารได้มีการร่วมพูดคุย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกองทัพได้มีการพูดคุยกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น และนอกจากในมาตรการดูแลความปลอดภัยแล้ว ยังได้มีการสั่งการให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจ ว่าส่วนไหนที่รัฐบาลสามารถสนับสนุน รัฐบาลพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการกล่าวเน้นย้ำถึงเรื่องการกล่าวถึงการแบ่งคำพูด ศาสนา เชื้อชาติ พร้อมขอให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วมกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตามทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน มีครอบครัวเหมือนกัน ซึ่งไม่ควรแบ่งแยก  อย่างไรก็ตามประเด็นความรุนแรงไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะทุกชีวิตล้วนมีคุณค่า   

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปถึงประเด็น การวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ได้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า จากการวิเคราะห์ในหลายรูปแบบ ทั้งในประเด็นเรื่องของความขัดแย้ง ซึ่งได้ดูเรื่องดังกล่าวแล้ว รวมถึงเรื่องความปลอดภัยได้มีการเพิ่มกำลังดูแล โดยได้ทำควบคู่กับการทำความเข้าใจว่ามีความเข้าใจผิดอย่างไรบ้าง หรือการทำความเข้าใจในเรื่องอะไรเพิ่มเติมเป็นเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำควบคู่ประกอบกันไม่ใช่แค่เพิ่มกำลังอย่างเดียว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเจรจาพูดคุยนอกเหนือจากช่องทางรัฐบาล นาย ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้มีการติดต่อพูดคุย นายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียนอยู่แล้ว ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งในประเด็นการพูดคุยในเรื่องต่าง ๆ มีความพร้อมในการที่จะสนับสนุนเรื่องของการพูดคุยกันในหลายช่องทาง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะพูดคุย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปถึงประเด็น การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนต่อเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ที่กังวลว่าจะกลับมารุนแรงอีกครั้งเหมือน 20 ปี ก่อน ว่า ได้มีการพูดคุยและสั่งการให้ทหารลงพื้นที่เข้าไปตั้งด่านเป็นที่เรียบร้อย ในเรื่องของสรรพกำลัง ได้มีการเตรียมอย่างเต็มที่ ส่วนใครที่ทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินการกระบวนการของกฎหมาย  ในส่วนเรื่องของกำลังเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมพร้อมแล้ว

ในส่วนของประเด็นการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่ายังไม่มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินการทำมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องของการทำความเข้าใจ และกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งตอนนี้มีในเรื่องของความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ และได้มุ่งเน้นโฟกัสในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทุกภาคส่วนทั้งในรอบและนอกรอบ โดยเมื่อช่วงเช้าก็ได้มีการเน้นย้ำพูดคุยในที่ประชุม ครม. ว่าสำหรับบางพรรคร่วมรัฐบาลที่มี สส. ในพื้นที่ก็ได้มีการรายงานเข้ามา ซึ่งเราได้จับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ปล่อยเรื่องดังกล่าวไปไหนอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปถึงประเด็น การเจรจาทางการไทย ที่ได้มีข้อเรียกร้องไปถึงกลุ่ม BRN  ว่าอยากเจรจาโดยตรงอย่าง เช่น ทางด้านผู้นำจิตวิญญาณนั้น ว่าทางผู้อำนวยความสะดวกได้รับเรื่องนี้ไปแล้ว เพื่อที่จะติดต่อกับผู้ที่จะเข้ามาพูดคุย

ส่วนแถลงการณ์ของกลุ่ม BRN ที่ประมาณความรุนแรงและไม่ได้โจมตีพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หาตัวผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของการหาตัวผู้กระทำความผิด ดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยได้มีการสั่งการไปยังตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นผู้บริสุทธิ์จะรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเราไม่สามารถจับตัวคนผิดได้เลยนั้น ประชาชนคนธรรมดาที่อยู่ในพื้นที่ก็จะอยู่ในพื้นที่ลำบาก เรื่องนี้จะไม่มีการปล่อยผ่านไป โดยได้สั่งการเรื่องดังกล่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดว่าจะต้องทำและดำเนินการอย่างไร

ยืนยันการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯยังอยู่ในกรอบ90วัน

นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกรอบเวลา 90 วัน แต่ในการพูดก็มีรายละเอียดที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นในเรื่องของ การเจรจาแบบดีลลับ ที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ จะมีปัญหาตามมาในภายหลัง ว่า เรื่องดังกล่าวมีส่วนที่เปิดเผยได้ และยังไม่เปิดเผย ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เป็นความลับ แต่จะต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมว่าควรจะเปิดเผยหัวข้อต่าง ๆ ในช่วงไหน ต้องอธิบายให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ และล่าสุดได้พูดคุยกับทีมงานของสหรัฐอเมริกา ถึงรายละเอียดส่วนใดที่ไทยต้องดำเนินการเพิ่มเติม ก็จะต้องดำเนินการ ซึ่งคิดว่าเนื้อหารายละเอียดที่จะไปเจรจานั้นค่อนข้างจะครอบคลุมแล้ว แต่หากดูสถานการณ์ ความเคลื่อนไหวขณะนี้ สหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลไทยก็รอดู เพื่อที่จะปรับให้เข้ากับแผน

ชี้แจง โครงการเงินหมื่นเฟส3ครม.ยังไม่พิจารณา

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีการพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 เงิน 10,000 บาท ในกลุ่มที่มีอายุ 16-20 ปี  ว่า ในขณะนี้ที่ประชุมครม. ยังไม่ได้มีพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 แจกเงิน 10,000 บาท ในกลุ่มที่มีอายุ 16-20 ปี  อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น เนื่องจากเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยต่างส่งความคิดเห็นเข้ามา ซึ่งแน่นอนรัฐบาลพร้อมรับฟังอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามความตั้งใจของรัฐบาลในโครงการดิจิทัลวอลเลต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีปัจจัยแทรกเข้ามาก็ต้องดูว่ามีปัจจัยที่แทรกเข้า  ซึ่งจะรับฟังของความคิดเห็นจากผู้รู้ทุกหน่วยงาน และขอย้ำว่ายังไม่มีมติที่จะยกเลิก ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็นซึ่งก็ต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบก่อนว่าความจำเป็นมีมากน้อยแค่ไหนในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินก้อนนี้จะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนทั้งประเทศอันนี้คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า ในส่วนนี้คือเป้าหมายที่สูงที่สุด ซึ่งต้องมองไปที่เป้าหมายว่าทำเพื่ออะไรทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วการรับฟังจากหน่วยงานมีความเห็นแล้วออกมาอย่างไร อันนี้ไม่สามารถเป็นฝ่ายบริหารฝ่ายเดียวได้ เมื่อตัดสินใจแล้วเดินหน้าได้เลย ซึ่งต้องดูเรื่องอื่นประกอบด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่สิ่งที่ทำคือรับฟังความคิดเห็นอยู่

“เมื่อมีความเห็นเข้ามาแล้ว ก็ต้องพิจารณาต่อจึงจะกำหนดว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบก่อนถึงจะแจ้งได้ แต่ถ้าจะให้พูดรับปากพูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะขณะนี้กำลังรอความคิดเห็นอยู่ ทั้งนี้ก็ต้องทำความเข้าใจเพราะยังมีปัจจัยที่เข้ามาโดยที่เราไม่ได้คาดหวังหรือคาดหวังเป็นทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยดังนั้นต้องฟังเหตุและผลด้วยซึ่งไม่ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรหรือเปลี่ยนแปลงต้องมีคำอธิบายจากรัฐบาล”นายกฯ กล่าว