Health & Beauty
นานาชาติตีพิมพ์ผลงาน ByeByeHIV สำเร็จ80รายย้ำนวัตกรรมมังคุดเสริมฤทธิ์

กรุงเทพฯ – 7 พฤษภาคม 2568 – คณะนักวิจัย Operation BIM จากบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) นำโดย ศ. ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากสารสกัดธรรมชาติมังคุดเสริมฤทธิ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS จำนวน รวม 80 ราย สามารถเข้าสู่ภาวะ “ByeByeHIV” โดยมีคุณภาพชีวิตที่แข็งแรงและในบางรายอาจพ้นจากการติดเชื้อ HIV อย่างแท้จริง โดยผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Clinical Immunology & Research ภายใต้หัวข้อ "ByeByeHIV with Thai Innovation"
ปัจจุบันสถานการณ์ โรคเอดส์ในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2568 มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 8,862 คน โดยการติดเชื้อรายใหม่นั้นส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย มีผู้เสียชีวิตจากเอดส์จำนวน 10,217 คน และมีผู้ติดเชื้อ HIV สะสมยังคงมีชีวิตอยู่จำนวน 568,565 คน
“ByeByeHIV” คือภาวะที่ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS สามารถลดปริมาณไวรัสในร่างกายลงจนตรวจไม่พบเชื้อ โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และสามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ นอกจากนี้ยังหมายถึงภาวะที่ผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งเคยใช้ยาต้านไวรัสแต่ไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงของยาได้ สามารถหยุดใช้ยาและยังคงมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกับปริมาณไวรัสที่ไม่สามารถตรวจพบได้
นวัตกรรมมังคุดเสริมฤทธิ์ ByeByeHIV ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และใบบัวบก ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเซลล์ Th1, Th17 และ Killer T cell มุ่งเป้าจัดการกับเซลล์ที่ติดเชื้อ พร้อมซ่อมแซมความเสียหายของเทโลเมียร์ที่เกิดจากเชื้อ HIV และยาต้านไวรัส
จากงานศึกษาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่บทความ “ByeByeHIV กับนวัตกรรมไทย” ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (อ้างอิงผลการศึกษา ByeByeHIV with Thai Innovation: https://www.scivisionpub.com/abstract-display.php?id=3167) โดยได้ประสบความสำเร็จในการ ByeByeHIV จากการใช้สูตรนี้ปรากฏใน 2 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่ม A: ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 24 คนที่ไม่เคยใช้ยาต้านไวรัสมาก่อน
- กลุ่ม B: ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 26 คนที่เคยใช้ยาต้านไวรัสมาแล้ว
ต่อมา ณ เดือนธันวาคม 2567 จำนวนผู้ประสบความสำเร็จในการ ByeByeHIV เพิ่มเป็นกลุ่มละ 40 คนทั้งในกลุ่ม A และ B จำนวนรวม 80 ราย
บทความล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน Clinical Immunology & Research รายงานผลความคืบหน้าใน “กลุ่ม A” โดยพบว่าอาสาสมัครทั้ง 40 คนในกลุ่ม A สามารถเข้าสู่ภาวะ ByeByeHIV ได้ทั้งหมด และในจำนวนนั้น มีอาสาสมัคร 15 รายที่หยุดใช้สูตร ByeByeHIV เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึงมากกว่า 4 ปี โดยยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและตรวจwไม่พบเชื้อ HIV ตลอดเวลาที่ผ่านมา อาสาสมัครรายแรกที่ตัดสินใจหยุดใช้สูตรหลังจากมีผลตรวจไม่พบเชื้อต่อเนื่องเกือบ 7 ปี ปัจจุบันได้อยู่ในภาวะตรวจไม่พบเชื้อมานานเกือบ 10 ปี สันนิษฐานได้ว่าอาสาสมัครทั้ง 15 ราย “ปลอดเชื้อ HIV ได้อย่างถาวรแล้ว”
ความคืบหน้าของ “กลุ่ม B” แสดงให้เห็นว่า อาสาสมัครทั้ง 40 รายสามารถเข้าสู่ภาวะ ByeByeHIV ได้ทั้งหมด โดยในจำนวนนี้ 15 รายสามารถหยุดใช้สูตร ByeByeHIV เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนถึงมากกว่า 2 ปี และยังคงมีสุขภาพดี พร้อมผลตรวจไม่พบเชื้อ HIV อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า HIV/AIDS สามารถรักษาให้หายได้แล้วไม่กลับมาเป็นใหม่
หนึ่งในผู้ป่วยที่น่าจับตามองคือ “คุณดิน” (กลุ่ม A ไม่เคยใช้ยาต้าน ) ซึ่งเริ่มใช้สูตรมังคุดเสริมฤทธิ์ ขณะที่มีระดับ CD4 เหลืออยู่แค่ 4 เซลล์ / ลบ.มม. % CD4 ที่ 0.7% และเชื้อ HIV กว่า 2.6 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร หลังจากที่ได้ใช้ ByeByeHIV แต่เพียงอย่างเดียว 7 เดือน ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว ปัจจุบันหยุดใช้สูตรมังคุดเสริมฤทธิ์ ByeByeHIV มาแล้ว 9 เดือน ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง คุณดินยินดีเปิดเผยตัวและทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้ติดเชื้อที่ต้องการฟื้นคืนคุณภาพชีวิตเช่นเดียวกับเขา
อีกสองกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ได้แก่ “คุณวิว” และ “คุณเอ” (กลุ่ม B เคยใช้ยาต้าน) ผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งเริ่มใช้สูตรมังคุดเสริมฤทธิ์ควบคู่กับยาต้านไวรัส จนสามารถลดปริมาณไวรัสในร่างกายจนไม่สามารถตรวจพบได้ และสามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัส รวมถึงสูตรมังคุดเสริมฤทธิ์ได้ในที่สุด ทั้งสองรายตรวจไม่พบเชื้อ และมีสุขภาพแข็งแรงต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แสดงว่า ทั้งสองรายได้ ByeByeHIV อย่างสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม 2567
“คุณวิว” ทราบว่าติดเชื้อ HIV ในช่วงปลายปี 2559 ขณะนั้นมีระดับ CD4 เพียง 72 เซลล์/ลบ.มม. และมีโรคฉวยโอกาสคือวัณโรคต่อมน้ำเหลือง หลังรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสพบอาการข้างเคียงที่รุนแรงหลากหลาย อาทิ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ลำไส้แปรปรวน ฟันกร่อน ผิวคล้ำ และปวดกล้ามเนื้อ ต่อมาเริ่มใช้สูตร ByeByeHIV ควบคู่กับยาต้านอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 เดือน ก่อนสามารถหยุดยาต้านได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบัน ByeByeHIV มาแล้ว 2 ปี 6 เดือน โดยยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดีแม้หยุดใช้สูตรมานาน 9 เดือน ระดับ CD4 ล่าสุดอยู่ที่ 520 เซลล์ / ลบ. มม. และ %CD4 ที่ 32.5 % ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าร่างกายปลอดเชื้อแล้ว
“คุณเอ” เป็นอีกกรณีที่น่าทึ่ง โดยทราบว่าติดเชื้อมาตั้งแต่ปี 2538 แต่ไม่ได้รับการรักษานานกว่า 20 ปี จนมีระดับ CD4 ลดเหลือเพียง 16 เซลล์ / ลบ. มม. และมีโรคแทรกรุนแรงหลายจุด เช่น มะเร็งที่สมอง ช่องท้อง และกระดูกสันหลัง จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ตาซ้ายมองไม่เห็น แพทย์ประเมินว่าอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ในปี 2558 คุณเอเริ่มรับการดูแลด้วยนวัตกรรมมังคุดเสริมฤทธิ์สูตร ByeByeHIV อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 8 เดือน อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง และตรวจไม่พบมะเร็งแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดใดๆ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ทีมแพทย์ผู้ดูแลเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คุณเอเริ่มลดยาต้านไวรัส และสามารถหยุดยาได้สำเร็จในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน ปัจจุบันผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี 5 เดือน โดยไม่พบเชื้อ HIV และเซลล์มะเร็งเลย ระดับ CD4 ล่าสุดอยู่ที่ 755 เซลล์ / ลบ. มม. และยังคงมีสุขภาพแข็งแรงแม้จะหยุดใช้สูตร ByeByeHIV มานานกว่า 9 เดือน
ทั้งสามกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ เป็นหลักฐานที่น่าสนใจซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของนวัตกรรมจากสารสกัดธรรมชาติ ในการรักษาผู้ติดเชื้อ HIV และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้กลับมาใกล้เคียงกับคนปกติได้ ปัจจุบัน ทั้งสามท่านได้ยินดีเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ติดเชื้อรายอื่นที่มีความสนใจในการใช้มังคุดเสริมฤทธิ์สูตร ByeByeHIV พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นพลังบวกให้แก่สังคม แทนที่จะปล่อยให้ความรังเกียจและการตีตราเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของผู้ติดเชื้อในปัจจุบัน
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะวิจัย Operation BIM กล่าวสรุปว่า “ผลการศึกษานี้ตอกย้ำถึงศักยภาพของสูตรมังคุดเสริมฤทธิ์ ByeByeHIV ในการเป็นทางรอดสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ที่ต้องการหยุดใช้ยาต้านไวรัส เพราะทนต่อผลข้างเคียงไม่ได้ หรือในกลุ่มผู้ติดเชื้อใหม่ที่ไม่ต้องการใช้ยาต้านไวรัส นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างประวัติศาสตร์โลก ในการรักษา HIV/AIDS ซึ่งสิ่งที่เราค้นพบนี้ จะเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ที่ว่า HIV/AIDS ไม่มีวันหายขาดตลอด 40 ปีที่ผ่านมา”
“นวัตกรรมแห่งชาติไทยนี้ ควรได้รับการยอมรับในระดับสากล เพราะเป็นการปลุกพลังธรรมชาติในร่างกายให้ทำงานได้อย่างสมดุลและปลอดภัย โดยไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งแม้จะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถทำสิ่งที่ยาไม่สามารถทำได้ จึงควรมีการปรับปรุงข้อกำหนดด้านกฎหมายให้ทันต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน”
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02 646 4882 หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด มังคุดเสริมฤทธิ์ ByeByeHIV ได้ที่ Hot line : 1154