In Global

จุดยืนจีนในการประชุมศก.-การค้าสหรัฐฯ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่หวังผลสำเร็จ



นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2025 รัฐบาลทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ดำเนินมาตรการขึ้นภาษีฝ่ายเดียวอย่างไม่ชอบธรรมและไร้เหตุผลหลายระลอก สร้างความปั่นป่วนอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ช่วงเช้าวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 จีนได้ประกาศว่า นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีของจีน จะเดินทางเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม ซึ่งในระหว่างการเยือนจะมีการเจรจาการค้ากับตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ

ประการแรก การที่จีนตอบรับการหารือกับสหรัฐฯ สะท้อนถึงทั้งเจตนาดีและความรับผิดชอบในฐานะมหาอำนาจ หลังจากที่ฝ่ายสหรัฐฯ ได้แสดงความต้องการเจรจาอย่างต่อเนื่อง จีนจึงได้ตัดสินใจตอบรับหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความคาดหวังของทั่วโลก ผลประโยชน์ของตนเอง และเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจและผู้บริโภคของสหรัฐฯ

การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบรับอย่างสร้างสรรค์ต่อคำขอของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางที่แสดงถึงความรับผิดชอบในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ให้พัฒนาอย่างดีขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ควรตระหนักว่าจีนไม่ได้ตัดสินใจเช่นนี้โดยง่าย ทุกอย่างเกิดจากการไตร่ตรองอย่างรอบด้านเพื่อปกป้องระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

การเปิดใจพูดคุยคือจุดเริ่มต้นสำคัญในการลดความขัดแย้งและแสวงหาทางออก ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความมั่งคั่งของทั้งสองประเทศ แต่ยังมีผลกระทบลึกซึ้งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลกและเสถียรภาพโดยรวม ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นที่จับตามองจากนานาประเทศ

อย่างไรก็ตาม เราควรมองสถานการณ์ด้วยความมีสติ: ต้นตอของสงครามการค้านั้นมาจากฝั่งสหรัฐฯ การจะบรรลุผลคืบหน้าอย่างแท้จริงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าสหรัฐฯ พร้อมหรือยังที่จะละทิ้งแนวทางฝ่ายเดียวและพฤติกรรมแบบข่มขู่ แล้วหันมาเจรจาโดยยึดหลักความเท่าเทียมและความร่วมมืออย่างจริงจังหรือไม่

ภายใต้บริบทนี้ จีนได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า มุ่งมั่นและแน่วแน่ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการเจรจาหรือวิธีการอื่น จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อในการปกป้องผลประโยชน์แห่งการพัฒนาของตนเอง รวมถึงยังคงยืนหยัดในการรักษาความเป็นธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศ และคุ้มครองระเบียบเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศอย่างมั่นคง จุดยืนนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนหลักการของจีนเอง แต่ยังเป็นพันธสัญญาต่อประชาคมโลกอีกด้วย ว่าในการเจรจาครั้งนี้ จีนจะยึดมั่นในหลักการ และไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากภายนอกอย่างง่ายดาย

จุดยืนของจีนยังเป็นตัวอย่างที่มีคุณค่าสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่กำลังเจรจากับสหรัฐฯ ประเทศต่าง ๆ ควรยืนหยัดในจุดยืนและหลักการของตนเอง และไม่ยอมให้สหรัฐฯ ใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือบังหน้าเพื่อกดดันหรือข่มขู่ มีเพียงการยึดมั่นในความเป็นธรรม ความยุติธรรม และพหุภาคีนิยมเท่านั้น ที่จะช่วยให้เราร่วมกันรักษาระเบียบเศรษฐกิจโลกให้มั่นคงและยุติธรรมได้

นอกจากนี้ แม้การประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าปัญหาทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขในทันที ความขัดแย้งเชิงโครงสร้างและผลประโยชน์ที่แตกต่างกันในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ฝังรากลึก และต้องอาศัยการเจรจาอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์ในการคลี่คลาย ดังนั้นเราควรมองผลลัพธ์ของการประชุมรอบนี้ด้วยความสงบนิ่ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างฉันทามติร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

กล่าวโดยสรุป การประชุมระดับสูงด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ครั้งนี้ เป็นพัฒนาการที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด ถือเป็นความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในการแสวงหาทางออกผ่านการเจรจาและความร่วมมือ อีกทั้งยังมีบทบาทเชิงบวกต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และพัฒนาการที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในอนาคต จีนหวังว่าสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ จะสามารถปรับเปลี่ยนท่าที และร่วมกับจีนผลักดันกระบวนการเจรจาให้เดินหน้าไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเปิดกว้างและความร่วมมือ เพื่อร่วมกันสร้างระบบเศรษฐกิจโลกที่มั่นคงและรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

แหล่งข้อมูล: https://news.cgtn.com/news/2025-05-11/A-crucial-step-toward-engagement-consensus-building-for-China-and-US-1DhL620e0Vy/p.html