In Thailand
ปราจีนบุรีขยับรับกระแสการเมืองเดือด! เสื้อแดงปราจีนฯร้องให้นายกฯลาออก

ปราจีนบุรี-2 สส.ปราจีนบุรี“ภูมิใจไทย”แพร่จุดยืนแจ้งต่อชาวปราจีนฯออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ขณะอดีตแกนนำคนเสื้อแดงเรียกร้องให้นายกฯอุ๋งอิ๊งลาออกหรือยุบสภาพร้อมประกาศขอถอนตัวจากเพื่อไทยด้านนปช.ยุคปัจจุบันยังเห็นใจนายกฯอุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย ไม่ติติงคนเห็นต่างยังยืนหยัดให้กำลังใจและให้สามัคคีกัน!
เมื่อเวลา 17.25 น.วันนี้19 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าว รายงานจาก จ.ปราจีนบุรี พบในเฟสบุ๊คของนายอำนาจ วิลาวัลย์ สส.ปราจีนบุรีพรรคภูมิใจไทยเขต 1 ได้โพสต์ข้อความของพรรคภูมิใจไทยโดยระบุข้อความว่า ... ชาติอยู่ได้เพราะคนไม่ลืมชาติ …
พร้อมได้แนบการแถลงการณ์ แสดงจุดยืนของทาง “พรรคภูมิใจไทย” แจ้งต่อประชาชนโดยระบุต่อไป ว่า ... กรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่ากรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ชาวปราจีนบุรีอยากให้นายกฯอุ๊งอิ๊งลาออก
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ 19 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีได้สอบถามนานาทรรศนะจากประชาชนจากหลายสาขาอาชีพที่จังหวัดปราจีนบุรี ได้ออกมาแสดงความเห็นกรณีคลิปเสียงที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แอบคุยกับ ฮุน เซน ซึ่งมีเนื้อหาที่ส่อทำประเทศเสียหาย หักหลังประชาชนคนไทย และทรยศประเทศไทยชาติ ทั้งมีการพูดพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ในทำนองว่าอยู่คนฝั่ง ทั้งที่ทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ
ซึ่งประชาชนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รับไม่ได้กับสิ่งที่นายกฯ กระทำจึงอยากให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภา หรือลาออก เพราะหากยังดำรงตำแหน่งต่ออาจส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมือง ประชาชนหมดความเชื่อมั่นและไม่ไว้วางใจนายกฯ
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ ต่อการทําให้ประเทศไทย ต้องเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ
พรรคภูมิใจไทย พร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวไทย สนับสนุนกองทัพ และ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ภารกิจ เพื่อธํารงรักษาอธิปไตย ดินแดน และ ประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทาง อย่างสุดกําลัง ...
พร้อมกันนี้ในเฟสบุ๊คของดร.สฤษดิ์ บุตรเนียร สส.ปราจีนบุรีพรรคภูมิใจไทยเขต 3 ได้โพสต์ข้อความของพรรคภูมิใจไทยโดยระบุข้อความแถลงการณ์พรรคภูมิใจไทยดังกล่าวนี้เช่นเดียวกับนายอำนาจ วิลาวัลย์ สส.ปราจีนบุรีพรรคภูมิใจไทยเขต 1เช่นกัน
ด้านนายเฉลิม เกียรติบรรจง อดีตเสื้อแดงปราจีนบุรี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนเสื้อแดง เป็นแกนนำคนเสื้อแดงมาก่อน และได้ฟังคลิปเสียงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็บอกตรง ๆว่าคาดไม่ถึงและก็ตกใจว่าไม่น่าเชื่อว่าผู้นำของประเทศเราไม่น่าจะมีแนวความคิดเป็นอย่างนี้ เพราะว่าพวกตนในฐานะที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมากันตลอดมา มาพบมาปะมาเห็นวิธีการพูดหรือวิธีการนำเสนอในลักษณะนี้
ตนนำเรียนพี่น้องว่าคนเสื้อแดงอย่างพวกเราก็จะต้องตาสว่างกันเสียทีแหละว่า ขณะนี้สมควรที่พวกเราควรสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะคุณแพทองธาร หรือว่า คุณทักษิณที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีกันต่อไปหรือไม่
อันนี้ตนนำเรียนโดยเฉพาะพี่น้องคนที่เป็นแกนนำระดับจังหวัดก็ดี หรือแกนนำที่อยู่ต่างจังหวัด ใครที่เราเคยปฏิสัมพันธ์ซึ่งกัน อ.เฉลิม จ.ปราจีนบุรี ขอประกาศยืนยันชัดเจนเรียกร้องให้คนเป็นนายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบควรลาออกหรือจะเป็นการยุบสภา และต้องบอกกันว่า กับพรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงพวกคนเสื้อแดงควรจะลาพอกันที ก็คงจะไม่สนับสนุนกันอีกต่อไป
เพราะว่าเราไว้วางใจให้พวกท่านไปบริหารบ้านเมือง เราไว้วางใจให้พวกท่านเข้าไปเป็นตัวแทนของพวกเราแต่พวกท่านไม่คิดถึงพวกเรา ท่านคิดถึงแต่ผลประโยชน์คิดถึงแต่อะไรตนไม่ทราบ สามารถที่จะเอาคนในแผ่นดินนี้ไปเป็นเครื่องเซ่นสังเวยให้แก่ผู้นำต่างประเทศถือว่าคบไม่ได้แล้วท่านยอมขายคนในชาติให้แผ่นดินอื่นนี้จะด้วยเจตนาใดตนไม่ทราบ บอกคำเดียวได้ว่าไม่ถูกหรอกครับ
สติปัญญาของคนเป็นผู้นำทำได้แค่นี้หรือ การเจรจาความเมืองหรือเรื่องใด ๆ ก็ตาม ควรจะต้องมีหลักการมีหลักกฏหมายมีหลักความชอบธรรม ไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัวแล้วเอาไปเจรจาความเมืองเป็นความพลาดครั้งยิ่งใหญ่
ประเทศไทยตั้งแต่ตั้งประเทศมาปี 1800 จนถึงปัจจุบันนี้ ตนไม่เคยเห็นผู้นำยุคใดสมัยใดในแผ่นดินนี้ที่จะอ่อนด้อยประสบการณ์และไม่รู้เรื่องวิธีทางการฑูต หรือไม่รู้เรื่องวิธีการการประสานงานเจรจาความสงบสุขกับบ้านพี่เมืองน้อง บ้านใกล้เรือนเคียงโดยเฉพาะคุณแพทองธาร จะพูดได้ถึงขนาดนี้ บอกตรง ๆ ว่าเสียใจ นายเฉลิม กล่าว
ขณะที่นายมณเฑียร หรือดำ รอดมาลี อายุ 51 ปีผู้ประสานงาน นปช.ปราจีนบุรี (คนเสื้อแดง) เจ้าของร้านกระทะแตกเลิศรส ในตลาดประสิทธิ์ เยื้องโอเดียนเก่า หรือ ย่านโรงหนังเก่าในอดีต – ตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ร้านหอยทอด ผัดไทย(การเมือง) ที่อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยเดินทางมาชิมด้วยตนเองถึง 2 ครั้ง ระหว่างดำเนินงานทางการเมืองในพื้นที่ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ในความคิดเห็นต่อกรณีคลิปฯการพูดคุยระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชานั้น ท่านนายกฯเป็นการคุยกันส่วนตัวกับท่านฮุนเซน โดยส่วนลึกแล้ว ท่านน่าอยากทำความเข้าใจกันบ้าง น่าเห็นใจท่านนายก ที่ปัญหามีหลายอย่างรุมเร้า
อาทิ ปัญหาเรื่องทางชายแดน การบริหารราชการแผ่นดินมีปัญหาไปหมด ด้านเศรษฐกิจความต้องการของ ท่านนายกฯจริงๆคงไม่อยากให้มีการอยากให้มีความรุนแรงด้านชายแดน-มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้านแนวชายแดนเกิดการสูญเสียแก่ทหารทั้งหลาย
พยายามที่สุดในการเจรจา การคุยกันของท่านนายกรัฐมนตรีกับท่านฮุนเซนเป็นการคุยหลังบ้านอาจจะการเจรจาอาจจะล่อแหลมไป คนเอาไปตีความ ตีความได้หลายอย่าง ต้องเข้าใจในสถานการณ์ รัก-ชอบก็มี แต่ นปช.ปราจีนฯสถานการณ์นี้ - คนไทยควรให้กำลังใจกันหันหน้ามาช่วยกัน เห็นต่างไม่ว่ากันควรเคารพกัน นายมณเฑียร หรือดำกล่าว
และกล่าวต่อไปว่า การค้าขายของตนเองตอนนี้ปกติไม่มีผลกระทบในการค้าขาย ตนเองเคารพในความคิดเห็นคนเสื้อแดงที่อาจแตกต่างกันบ้างขอให้เคารพซึ่งกันและกันอย่าละเมิดกัน สำหรับที่ร้านตนเป็นศูนย์กลางประสานงาน นปช.หรือคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยที่ต่อสู้มายาวนานที่ร้านเป็นศูนย์กลางที่ชัดเจนทางการเมืองที่สุดไม่มีอะไรผิดปิดบังความจริง
ความเห็น เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิมให้เกียรติ ไม่มีผลประโยชน์ชื่นชอบโดยส่วนตัวชัดเจนที่สุดเปิดเผยไม่มีผลประโยชน์ เป็นการชื่นชอบส่วนตัวชัดเจนที่สุดเปิดตัวเป็นจุดศูนย์กลาง ตอนนี้อยากให้คนไทยรักสามัคคีกันในตอนนี้คนไหนๆ ก็รักประเทศชาติที่สุดทุกคน นายมณเฑียร หรือดำกล่าวในที่สุด
มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ณัฐนันท์ – ภาพ/ปราจีนบุรี