Think In Truth
การเปลี่ยนแปลงราคาอาหารปี2555-68 โดย..ดร.โสภณ พรโชคชัย

ในแต่ละช่วงของรัฐบาล ราคาอาหารเพิ่มขึ้นอย่างไรบ้าง สะท้อนภาวะเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร ตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประยุทธ์ เศรษฐาและแพทองธาร
ในยุคนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ราคาอาหารเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ในยุคนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังรัฐประหาร 9 ปี (พฤษภาคม 2557-2566) ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 77% หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเงินเฟ้อของทางราชการ แสดงว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของทางราชการไม่ได้ผลเท่าที่ควร มาถึงยุคนายกฯ เศรษฐา ราคาอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% และในยุคนายกฯ แพทองธาร ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.0% ทั้งนี้คงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ดูเงินฝืด ทำให้ราคาสินค้าไม่สามารถขึ้นได้มาก (ถ้าขึ้นราคามากก็คงไม่มีความสามารถในการซื้อ
สรุปการเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร สีลม สุรวงศ์ สาทร. 2555-2568
- ราคาอาหารต่อจาน พฤษภาคม 2555 (บาท) 31.0
- ราคาอาหารต่อจาน มิถุนายน 2568 (บาท) 64.0
- ปรับเพิ่ม 2555-2566 106.5%
- ราคาอาหารปีล่าสุด (2567-2568) 2.0%
- ราคาอาหารยุคยิ่งลักษณ์ (2555-2557) เพิ่มปีละ 5.2%
- ราคาอาหารยุคประยุทธ์ (2557-2566) เพิ่มปีละ 6.6%
- ราคาอาหารยุคเศรษฐา (2557-2567) เพิ่มปีละ 3.3%
- ราคาอาหารยุคแพรทองธาร (2557-2567) เพิ่มปีละ 2.0%
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส www.area.co.th
ล่าสุดราคาอาหารรอบ 1 ปี (พฤษภาคม 2565 – พฤษภาคม 2567) เพิ่มขึ้น 2.0% แต่เมื่อดูภาพรวม 9 ปีหลังรัฐประหาร (พฤษภาคม 2557-2566) ราคาอาหารขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ส่วนตลอดระยะเวลา 9 ปีที่สำรวจ (พฤษภาคม 2555 – พฤษภาคม 2565) มีราคาเพิ่มขึ้น 105.6% หรือขึ้นปีละ 5.2% ซึ่งสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ แสดงถึงความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจที่พึงจับตามอง ทั้งนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 ไม่ได้สำรวจเพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้สำรวจกันในเดือนมิถุนายนแทน ส่วนในปี 2565 กลับมาสำรวจในเดือนพฤษภาคมเช่นทุกปี
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้จัดทำราคาอาหาร โดยถือเป็นดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ฯ ได้ริเริ่มจัดทำการสำรวจราคาอาหารในทุกรอบครึ่งปี โดยที่ผ่านมาได้ทำการสำรวจดำเนินการใน 21 ครั้ง แต่ในระยะหลังทำการสำรวจในรอบปี ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555ครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ครั้งที่ 3 วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 ครั้งที่ 4 วันจันทร์ 11 พฤศจิกายน 2556ครั้งที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2557 และครั้งที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2557ครั้งที่ 7 วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2558ครั้งที่ 8 วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2558ครั้งที 9 วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2559ครั้งที่ 10 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2559ครั้งที่ 11 วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2560ครั้งที่ 12 วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2560ครั้งที่ 13 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2561ครั้งที่ 14 วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561ครั้งที่ 15 วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2562ครั้งที่ 16 วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2563ครั้งที่ 17 วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2564ครั้งที่ 18 วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2565ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566ครั้งที่ 20 วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2567ครั้งที่ 21 วันพุธที่ 18 มิถุนายน 2568
การสำรวจนี้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้โดยมีสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้น่าจะเป็นราคามาตรฐานเพราะเป็นในใจกลางเมือง ในบริเวณอื่นน่าจะถูกกว่านี้ ยกเว้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว การสำรวจพื้นที่สีลม จึงถือเป็นตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม
การสำรวจนี้ ดร.โสภณ เดินสำรวจซ้ำตามร้านเดิมที่เคยสำรวจไว้จำนวนมากกว่า 30 ร้าน บางบริเวณเป็นร้านอาหารร้านเดียว บางบริเวณเป็นศูนย์อาหาร พร้อมบันทึกถ่ายภาพนิ่ง และวีดีทัศน์ประกอบ และในบางบริเวณมีร้านค้าเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามห้วงเวลาอีกด้วย โดยแต่ละครั้งที่สำรวจใช้เวลาในการเดินไม่เกิน 2 ชั่วโมงในช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน
ผลการสำรวจทั้ง 21 ครั้งที่ผ่านมา แสดงไว้ในตารางต่อไปนี้:
โดยสรุปพบว่าราคาอาหารเฉลี่ย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นดังนี้
เดือน ราคา
- พฤษภาคม 2555 31.0 บาท
- พฤษภาคม 2556 31.8 บาท
- พฤษภาคม 2557 34.3 บาท
- พฤศจิกายน 2557 36.1 บาท
- พฤษภาคม 2558 38.4 บาท
- พฤศจิกายน 2558 40.0 บาท
- พฤษภาคม 2559 41.7 บาท
- พฤศจิกายน 2559 43.1 บาท
- พฤษภาคม 2560 45.7 บาท
- พฤศจิกายน 2560 47.1 บาท
- พฤษภาคม 2561 48.1 บาท
- พฤศจิกายน 2561 49.0 บาท
- พฤษภาคม 2562 50.2 บาท
- พฤษภาคม 2563 51.4 บาท
- มิถุนายน 2564 53.5 บาท
- พฤษภาคม 2565 57.0 บาท
- พฤษภาคม 2567 62.8 บาท
- มิถุนายน 2568 64.0 บาท
ดูตารางที่นี่: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1267375491420966&set=a.581001843391671
เมื่อประเมินจากภาพรวมสะสม 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาเพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5% และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ณ เดือนพฤษภาคม 2566 หรือเป็นเวลา 9 ปีหลังรัฐประหารเมื่อพฤษภาคม 2557 เพิ่มขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก หากเทียบกับก่อนรัฐประหารในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555-2557 ปรากฏว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเพียง 10.7% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ต่ำกว่าช่วงหลังรัฐประหาร
ดังนั้นในยุคก่อนรัฐประหาร ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงหลังรัฐประหารอย่างชัดเจน ส่วนในปีของรัฐบาลเศรษฐาเพิ่มขึ้น 3.3%
มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ในกรณีนี้บางท่านอาจตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง แต่จากการสังเกตก็พบว่า ปริมาณก็อาจลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามก็ยังอาจมีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า แม้บางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง แต่ข้อนี้ ผู้สำรวจคงไม่สามารถไปตรวจสอบในรายละเอียดในระดับนั้น และคงอยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านที่พิจารณาผลการสำรวจนี้ ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ
จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกเพื่อการขายอาหาร หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน
และด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆ กลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่
สำหรับราคาอาหารในปี 2568-2569 น่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% เช่นกัน