In Thailand
หลวงพี่น้ำฝนเตือนสติโยมยกวัดให้เซเว่น 'อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้'

นครปฐม-ในเวที โครงการธรรมะกลางเมือง "เรายกวัดมาให้ที่เซเว่นฯ ปีที่ 29" โดยชมรมพุทธปัญญาชมรม บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจัดขึ้น ณ ชั้น 1 อาคารธาราสาทร ถนนสาทรใต้ ได้นิมนต์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม แสดงธรรมในหัวข้อ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" โดยเป็นการนำประสบการการทำงานเพื่อสังคมในสถานการณ์ที่แตกต่างกันซึ่งเกิดขึ้นในสังคมมาถ่ายทอดและสรุปผลให้กับญาติโยมได้นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตด้วยความสงบอย่างเข้าใจในรูปแบบธรรมะที่เข้าใจง่ายเข้ากับยุคสมัยในสังคมปัจจุบัน โดยมีคุณปรางรัตน์ เกียรติทรงศักดิ์ ประธานพุทธปัญญาชมรม บมจ.ซีพีออลล์ คณะผู้บริหาร พนักงานซีพีออลล์ ผู้ประกอบการ SME และประชาชนที่สนใจ ร่วมรับฟัง โดยมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live เพจ CP ALL รวมถึงติดตามการรับชมย้อนหลังที่ช่องทางYoutube https://www.youtube.com/@ADM7100 ช่องทางTiktok https://www.tiktok.com/@thrrma_tiktok?_t=ZS-8urH1XX6lO4&_r=1
หลวงพี่น้ำฝน ได้หยิบยกถึงการทำงานเพื่อสังคม ซึ่งปัจจุบันได้มีการเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมของกรมราชทัณฑ์ ในหลายโครงการ อาทิการจัดกิจกรรมโครงการสวดมนต์ "ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ในทุกปีที่ผ่านมา การสนับสนุนงานด้านศิลปะ วัฒนธรรมและกีฬา ให้กับผู้ต้องขัง โดยในส่วนของการช่วยเหลือสังคม ได้มีการจัดโครงการหลัก 9 โครงการ เช่นโครงการสวดเผาฟรี ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้มีการรับศพที่เสียชีวิต จำนวน 500 กว่าราย ที่เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด19 มาประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความตื่นตระหนกในสังคมทั่วโลก การจัดพื้นที่ให้มีการตั้งโรงพยาบาลนครปฐม สาขาวัดไผ่ล้อม เพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ โดยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลตรีหญิง คุณหญิงปภัสสร วัชรหทัยพัทธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธียกช่อฟ้าพระวิหารพระพุทธเมตตาประทานพร และเปิดอาคารศูนย์ไตเทียม วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการสงเคราะห์ญาติโยมที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต โดยมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพด้านนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงของการบรรยายธรรม หลวงพี่น้ำฝน ได้นำบทสรุปของชีวิตของทุกคนที่หนีไม่พ้นนั่นคือความตาย ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ยากดีมีจน ทุกคนก็มีปลายทางเดียวกัน ซึ่งปัญหาต่างๆ ก็จะวนเวียนเข้ามาหาเราอยู่เสมอ แต่ขอให้ตั้งมั่นมีสติในการดำเนินการชีวิต เข้าใจสถานการณ์ ณ ช่วงนั้นและเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่จะส่งผลถึงที่เกิดขึ้น เปรียบเป็นการใช้ข้อคิด อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ที่เคยนำไปสอนกับผู้ต้องขังในหลายเรือนจำที่ได้เข้าไปร่วมกิจกรรมในการ ใช้หลักธรรมฉบับง่ายเพื่อให้เขาเหล่านั้น อยู่ในสถานที่ถูกควบคุมอิสระภาพและเตรียมพร้อมสำหรับการได้รับการปลดปล่อยกลับสู่สังคมอีกครั้ง และหลวงพี่น้ำฝน ได้ตั้งปนิธานในการทำงานเพื่อสังคมจวบจนลมหายใจสุดท้าย ด้วยแนวคิด "ทำเพื่อตัวเองก็อยู่เพียงแค่สิ้นลม แต่หากทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลมก็ยังคงอยู่"
การบรรยายธรรมครั้งนี้ หลวงพี่น้ำฝน ไม่ได้เพียงพยายามนำหลักธรรมที่ลึกซึ้งมาแสดงให้ญาติโยมได้เรียนรู้ แต่ได้มีการนำธรรมะ มาประพันธ์เป็นบทเพลงคือเพลงอยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ และบทเพลงชาตินี้ก็รู้กัน ซึ่งเป็นการทำงานธรรมะเชิงรุก เพื่อให้เข้าถึงกับญาติโยมที่จดจำและให้สติได้อีกแนวทางหนึ่งด้วย