In Global
'เซี่ยงไฮ้ฯ'เดินหน้ารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ หนุนขยายสเกลอุตสาหกรรม

ปักกิ่ง, 5 ส.ค. (ซินหัว) - เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตีส์ นิวส์ (Shanghai Securities News) หนังสือพิมพ์หลักทรัพย์สังกัดสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นครเซี่ยงไฮ้ของจีนได้มอบใบอนุญาตดำเนินการทดลอง สำหรับยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ (ICV) ชุดใหม่ ภายในงานฟอรั่ม “แบบจำลองอนาคตอัจฉริยะ” (Models Lead Intelligent Future) ที่จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ การพัฒนาและนวัตกรรมยานยนต์ไร้คนขับจากพลังปัญญาประดิษฐ์ ณ มหกรรมการประชุมว่าด้วยเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (WAIC) ปี 2025 โดยกลุ่มบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตชุดแรกนี้ครอบคลุมหลากหลายรูปแบบการใช้งาน เช่น การเดินทางอัจฉริยะ การขนส่งระยะไกล และการจัดส่งระยะสุดท้าย
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า ปี 2025 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เพราะจะเปลี่ยนผ่านจากช่วงการทดสอบทางเทคนิคไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง
เส้นทางสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์
ใบอนุญาตที่ออกใหม่ครอบคลุม 2 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ แท็กซี่อัจฉริยะ และ การขนส่งสินค้าอัจฉริยะ โดยบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต เช่น ธุรกิจขับขี่อัจฉริยะของไป่ตู้สาขาเซี่ยงไฮ้ และบริษัท ต้าจ้ง ทรานสปอร์ตเทชั่น กรุ๊ป จำกัด (Dazhong Transportation (Group) Co., Ltd.)
ตัวแทนจากบริษัทด้านการขับขี่อัตโนมัติรายหนึ่งกล่าวว่า การดำเนินงานในรูปแบบสาธิต เปิดทางให้บริการเชิงพาณิชย์แบบมีค่าใช้จ่าย โดยใช้รถไร้คนขับที่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพาณิชย์ในอนาคต พร้อมเสริมว่า ในไม่ช้าประชาชนจะสามารถเรียกรถไร้คนขับภายในพื้นที่ให้บริการได้ ซึ่งจะช่วยทำให้เทคโนโลยีนี้ใกล้ตัวมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความร่วมมือระหว่างบริษัทแท็กซี่ดั้งเดิมกับบริษัทเทคโนโลยี ช่วยสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและมาตรฐานการให้บริการ จนอาจกลายเป็น “เซี่ยงไฮ้โมเดล” สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ จีนได้ออกใบอนุญาตทดสอบรถไร้คนขับแล้วกว่า 16,000 ใบ และเปิดถนนสาธารณะสำหรับทดสอบรวมกว่า 32,000 กิโลเมตร การเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ของเซี่ยงไฮ้สะท้อนถึงการเข้าสู่ยุคใหม่ของรถอัจฉริยะที่เป็นวงกว้างมากขึ้น
แผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องชี้ว่าเซี่ยงไฮ้มุ่งเป็นเมืองนำร่องด้านการขับขี่อัจฉริยะ โดยตั้งเป้าบรรลุการเดินทางด้วยรถยนต์ไร้คนขับระดับ L4 จำนวน 6 ล้านเที่ยว และขนส่งสินค้ากว่า 800,000 TEUs (หน่วยเทียบเท่า 20 ฟุต) ภายในปี 2027 พร้อมเตรียมเปิดถนนมากกว่า 5,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร โดยรถยนต์ไร้คนขับระดับ L2/L3 จะคิดเป็นร้อยละ 90 ของการผลิตรถใหม่ และรถระดับ L4 จะเริ่มเข้าสู่การผลิตระดับอุตสาหกรรม
ก้าวสู่ยุคใหม่ที่ซับซ้อน
อุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยแนวทางใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven) เริ่มได้รับความนิยม แทนที่สถาปัตยกรรมแบบแยกโมดูล ผ่านการใช้ดีปเลิร์นนิงในการสร้างสัญญาณควบคุมโดยตรงจากข้อมูลเซนเซอร์
ขณะเดียวกัน อัลกอริธึมก็ต้องพึ่งพา “โมเดลโลก” (world models) ที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กเอไอที่จำลองพลวัตของสิ่งแวดล้อม กัวฮุ่ย รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท ไอเอ็ม มอเตอร์ส (IM Motors) ระบุว่า บริษัทฯ ได้ผสานแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความรู้เข้าด้วยกัน โดยใช้โมเดลกระบวนการแบบครบวงจร (End-to-end) ร่วมกับโมเดลขนาดใหญ่แบบมัลติโมดอล เพื่อยกระดับการทำงานของระบบขับขี่อัตโนมัติให้เหนือกว่าเดิม
กัวระบุว่า เมื่อศักยภาพการประมวลผลของคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น โมเดลโลก ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่จำลองพลวัติของสภาพแวดล้อม อาจถูกนำมาใช้งานจริงในยานต์ยนต์อนาคตอันใกล้ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนา "ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป" (General AI) ในภาคการขับขี่อัตโนมัติ
ขยายขอบเขตการใช้งาน
แหล่งข่าววงในกล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ” โดยความสำเร็จในการพาณิชย์ขึ้นอยู่กับการขยายขอบเขตการใช้งาน ซึ่งขณะนี้โครงการนำร่องกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายภาคส่วน เช่น การขนส่งส่วนบุคคล โลจิสติกส์ รถโดยสาร และพื้นที่เฉพาะทางอย่างเหมืองแร่
อู๋ฉยง ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่อัตโนมัติจากไป่ตู้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีน กล่าวว่าแม้ในช่วงแรกความเป็นไปได้ทางเทคนิคและความปลอดภัยจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การขยายขอบเขตและความล้ำลึกของการใช้งานต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมเน้นว่า กรอบนโยบายที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันก็สำคัญไม่แพ้กับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ในขณะที่เฮ่าปินปิน ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีเจ้อเจียงถงถงต๋า (Zhejiang Tongtongda) กล่าวเสริมว่าการปรับใช้นโยบายและกฎระเบียบต่างๆ เป็นอุปสรรคสำคัญของการขยายตัวของรถความเร็วต่ำระดับ L4 และมีเพียงนโยบายเท่านั้นที่จะช่วยให้การใช้งานรถไร้คนขับขยายจากระดับหมื่นคันสู่ระดับล้านคันได้
(เรียบเรียงโดย Niu Huizhe with Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/527262_20250805 , https://en.imsilkroad.com/p/346918.html)