In Thailand
ตร.ทางหลวงปราจีนบุรีฯจับ9เขมร1ไทย! กำลังขนเขมรไปส่งที่ด่านบ้านแหลม-จันท์

ปราจีนบุรี-เมื่อเวลา 19.40 น.วันนี้ 10 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.ต.กมลภพ หาญเวช สว.ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล. (ปราจีนบุรี-สระแก้ว)กล่าวว่า ชุดจับกุมสถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ตำรวจทางหลวงปราจีน - สระแก้ว )หน่วยฯสระแก้วได้ทำการจับกุม 9 กัมพูชา 1ไทย! เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์ออกตรวจกวดขันวินัยจราจรและป้องอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ทล.33 (หน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีสระแก้ว) กม.232-233 ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีดำ (เทา-ดำ) หมายเลขทะเบียน ฒฉ 7973 กรุงเทพมหานคร โดยมีลักษณะขนของต้องสงสัย และมีเงาบุคคลภายในรถเยอะผิดปกติ ลักษณะผิดสังเกต
จึงได้ส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด เพื่อขอทำการตรวจสอบ โดยก่อนทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจ จึงเริ่มทำการตรวจสอบด้วยความสมัครใจของผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว
ผลการตรวจสอบพบ นายสาธิต จันทะศรี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบภายในรถ พบชาวกัมพูชา9คนเป็นชาย7คน หญิง2คน จากการตรวจสอบชาวกัมพูชาทั้ง 9 คน(นายวันนี อายุ 19 ปีสัญชาติ กัมพูชา นายเชินอายุ50 ปี สัญชาติ กัมพูชา นายชาน อายุ 23 ปี สัญชาติ กัมพูชานายเจียนอายุ 30 ปีสัญชาติ กัมพูชานายเผือกอายุ 25 ปีสัญชาติ กัมพูชานายปอด อายุ 21 ปี สัญชาติ กัมพูชานายทูนอายุ 30 ปี สัญชาติ กัมพูชา นางนา อายุ 37 ปี สัญชาติ กัมพูชา น.ส.นิด อายุ 18 ปีสัญชาติ กัมพูชา ) ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ นายสาธิตหรือธิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ม.3 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดต้องถูกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ นายสาธิตหรือธิต จันทะศรี (ผู้ถูกจับที่ 1) ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำ นายสาธิตหรือธิต ฯ และชาวกัมพูชา พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง โดยได้ให้นายเผือก (ล่ามแปลภาษา) ที่สามารถสื่อสาร และเข้าใจภาษากัมพูชาและภาษาไทยได้ดี เป็นล่ามแปลภาษา จากการสอบถามทราบชื่อผู้ถูกจับที่ (2)นายวันนี (3)นายเชิน (4)นายชาน (5)นายเจียน (6)นายเผือก (7)นายปอด (8)นายทูน (9)นางนา (10)น.ส.นิด ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ โดยได้รับว่าเดินทางมาจากประเทศกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทยผ่านทาง ชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปทำงานก่อสร้างที่ จังหวัดสมุทรปราการ และ จากการสอบถาม นายสาธิตหรือธิต ฯ ผู้ถูกจับที่ (1) ให้การว่าตนเป็นผู้รับจ้างมาจากบุคคลชื่อ เบ้น โดยได้รับค่าว่าจ้าง จำนวน 1,500บาท ให้มารับชาวกัมพูชา ผู้ถูกจับที่(2-10) จาก ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ไปส่งที่ด่านถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
โดยทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับที่ (2-10) ทราบผ่านล่ามว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมแจ้งสิทธิให้ทราบตามกฎหมาย ผู้ถูกจับที่ 1-10 ทราบ และเข้าใจเป็นอย่างดี โดยผู้ถูกจับที่ (2-10) มี นายเผือก เป็นล่ามแปลภาษาให้เข้าใจในข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิจากนั้นจึงได้ตรวจยึดรถยนต์ดังกล่าวไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี