Health & Beauty
แพทย์ไทยใช้วิธีMinimally Invasive ปลดล็อกชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยหลังเรื้อรัง

กรุงเทพฯ-โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังซับซ้อน ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย เผยเรื่องราวการรักษาจริงที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
โรคกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน กดทับเส้นประสาท หรือภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ล้วนส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การรักษาจึงต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยเฉพาะเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery: MIS) ที่ช่วยลดความเสี่ยง ฟื้นตัวเร็ว และทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ในเวลาอันสั้น
แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังทั้ง 3 ท่านจาก เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยจริง
- นพ.ศรัณย์ จินดาหรา เผยเคสผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสานานหลายปี แต่กังวลเรื่องการผ่าตัดใหญ่ จนตัดสินใจรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง ผลลัพธ์คือกลับมาเดินและใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
- นพ.พร นริศชาติ กล่าวถึงผู้ป่วยที่ทนปวดมานานจนไม่สามารถออกจากบ้านได้ หลังการผ่าตัดส่องกล้อง เพียงวันรุ่งขึ้นก็สามารถเดินได้ โดยแพทย์ย้ำว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการเห็นผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตอย่างอิสระอีกครั้ง”
- นพ.ฐปนัตว์ จันทราภาส เล่าถึงผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุจนกระดูกสันหลังยุบตัว ไม่สามารถลุกหรือนั่งได้ ทีมแพทย์จึงเลือกฉีดซีเมนต์เพื่อเสริมกระดูก และทำให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้ในวันรุ่งขึ้น โดยผู้ป่วยบอกว่า “เหมือนตายแล้วเกิดใหม่”
นอกจากความชำนาญของทีมแพทย์แล้ว เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ยังมีห้องผ่าตัดและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย รองรับทั้งการผ่าตัดขนาดเล็กและการรักษาที่ซับซ้อน พร้อมด้วยทีมวิสัญญีแพทย์และบุคลากรที่มีประสบการณ์ ทำงานร่วมกันเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละราย
การผสมผสานระหว่าง ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เฉพาะทาง เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการทำงานเป็นทีม ทำให้การรักษาที่นี่มีความปลอดภัย แม่นยำ ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ลดความเจ็บปวดหลังผ่าตัด และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การรักษาโรคกระดูกสันหลังซับซ้อนจำเป็นต้องใช้ทั้งองค์ความรู้เฉพาะทางและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จุดแข็งของ เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ที่ทำให้เหนือกว่าคู่แข่งคือการมีทีมแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง การผสมผสานเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยหลายชุด พร้อมห้องผ่าตัดมาตรฐานสากล และการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นหลัก
ด้วยมาตรฐานดังกล่าว เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ จึงไม่เพียงแต่รักษาผู้ป่วยให้หายจากอาการเจ็บปวด แต่ยังช่วยฟื้นฟูให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและยั่งยืน แตกต่างจากการรักษาทั่วไปที่มุ่งเน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ยังคงมุ่งมั่นในการยกระดับการรักษาโรคกระดูกสันหลังในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านกระดูกสันหลังที่ผู้ป่วยไว้วางใจ และเป็นผู้นำที่เหนือกว่าคู่แข่งทั้งในด้านนวัตกรรมการแพทย์และคุณภาพการดูแลแบบองค์รวม