Travel Sport & Entertain

CEA ดันคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลกในงาน 'Content Project Market'



กรุงเทพฯ-สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดงาน Content Project Market (CPM) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 10 - 12 กันยายน 2568 ณ True Digital Park (East) ชั้น 6 - 7 พร้อมดึงผู้ผลิต–นักลงทุน–แพลตฟอร์มสตรีมมิงกว่า 70 บริษัทเข้าร่วมโดยคาดว่าจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจมากกว่า 300 คู่ ตอกย้ำศักยภาพคอนเทนต์ไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ที่ยกระดับเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ประเทศ สำหรับงานในปีนี้ได้นำเสนอผลงานจำนวน 54 ผลงานจากโปรแกรมที่ผ่านการคัดเลือกของโครงการ Content Lab 2025 จำนวน 34 ผลงานและจากการเปิดรับผลงานจากมืออาชีพในวงการ (Open Call) อีก 20 ผลงานโดยผลงานทั้งหมดนี้เข้าร่วมกิจกรรมBusinessMatchingกับภาคธุรกิจและนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ

นายไชยยงรัตนอังกูรประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เผยว่างาน Content Project Market ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นับเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทย รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน งานนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเวทีนำเสนอผลงาน แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย กับค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ซีรีส์แอนิเมชันนักลงทุนผู้จัดจำหน่ายและแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับสากลผ่านกิจกรรมการนำเสนอโครงการ (Pitching), กิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) และกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Networking Reception) อย่างครบวงจรสำหรับปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 70 บริษัทชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเช่น GDH, Netflix (Thailand), PCCW OTT Thailand (Viu), GMM TV, WeTV, True CJ Creations, The One Enterprise, Base Entertainment (Indonesia), Little Green White (Singapore), Mocha Chai Laboratories (Singapore), Mokster Films (Singapore), Skyline Media (Vietnam), Volos Films (Taiwan), Studio76 Original Productions (Taiwan), Quezon City Film Commission / QCinema Project Market / Fire and Ice Media and Production (Philippines) ฯลฯ

Content Project Market ในปีนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเสวนา (Forum) จำนวน 5 หัวข้อโดยมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 16 ท่านมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงและกลยุทธ์สร้างคอนเทนต์ให้โดดเด่นในตลาดโลกซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับนักสร้างสรรค์และผู้ประกอบการไทยพร้อมมอบโอกาสในพัฒนาทักษะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการมองเห็นทิศทางในการต่อยอดผลงานภาพยนตร์และซีรีส์สู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่เสวนา “Navigating the Landscape of Asian Film Funds: Opportunities and Challenges for Filmmakers” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในภาพยนตร์เอเชีย, เสวนา “Co-production and Collaboration in the Asia-Pacific Film Industry: Moving Towards the Global Stage” ที่เจาะลึกการร่วมทุนสร้างในเอเชียแปซิฟิก - ความร่วมมือในภูมิภาคสู่ตลาดโลกและ “Beyond Borders: Strategies for ASEAN Films and Series to Travel and Thrive Across the Region” กลยุทธ์ข้ามแดนภาพยนตร์และซีรีส์อาเซียนสู่การเดินทางไกลไปทั่วโลกนอกจากนี้ยังมีเสวนาเรื่อง “Beyond the Budget: How Producers Shape Creative Vision” และ “The Future of Thai Narrative: Trends Shaping Film and Series Production” ให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์งานตั้งแต่ต้นจนจบและเข้าใจเทรนด์คอนเทนต์ไทยรวมถึงการจุดกระแสความนิยมในภาพยนตร์และซีรีส์ในยุคปัจจุบัน

สำหรับไฮไลต์สำคัญของงาน Content Project Market คือการเป็นเวทีต่อยอดผลงานของนักสร้างสรรค์จากโครงการContent Lab 2025ภายใต้ 3 โปรแกรมหลักได้แก่Mid-Career: Project, Mid-Career: Story และ Mid-Career: Animation รวมทั้งผลงานจากผู้ผลิตคอนเทนต์มืออาชีพที่ผ่านการคัดเลือก (Open Call) รวมทั้งสิ้น 54 ทีม โดยทุกทีมจะได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานและเจรจาธุรกิจกับนักลงทุนและพันธมิตรเชิงพาณิชย์โดยตรง ถือเป็นการสร้างโอกาสเชิงพาณิชย์ พร้อมพัฒนาทักษะของบุคลากรไทยให้ยกระดับสู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

 “CEA มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ที่ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาทักษะการบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ตลอดจนการเปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจและขยายเครือข่ายในระดับโลกด้วยเล็งเห็นว่าคอนเทนต์ไทยไม่ใช่แค่สื่อบันเทิงแต่คือพลังซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างรายได้สร้างงานและยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างมหาศาลข้อมูลจากตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิต (Input-Output Table) ในปี 2563 แสดงให้เห็นว่าการลงทุนด้านกลุ่มอุตสาหกรรมคอนเทนต์โดยเฉพาะสาขาภาพยนตร์และซีรีส์ (Film & Series) รวมถึงการแพร่ภาพและกระจายเสียง (Broadcasting) สามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจรวมที่สูงกว่ามูลค่าการลงทุนโดยทุก 1 บาทที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ย 1.8 บาทข้อมูลนี้สะท้อนว่าการลงทุนด้านอุตสาหกรรมคอนเทนต์จะเป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในภาพรวมโดยในปี 2569 CEA ตั้งเป้าผลักดัน Content Project Market ให้เติบโตสู่ระดับนานาชาติโดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายตลาดในเอเชียพร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรจากทั่วภูมิภาคเพื่อให้ระบบนิเวศสร้างสรรค์อุตสาหกรรมคอนเทนต์ของไทยและเอเชียมีความเชื่อมโยงและเติบโตไปพร้อม ๆ กันยกระดับคอนเทนต์ไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติและปักหมุดไทยให้เป็นตลาดซื้อขายคอนเทนต์ของภูมิภาคงาน Content Project Market จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคอนเทนต์ของภูมิภาคในอนาคต” นายไชยยงกล่าวสรุป