Health & Beauty
'BioActive+'แรงไม่หยุด4เดือนกวาด ยอดขาย921ล.มั่นใจสิ้นปีนี้แตะ1,500ล.

กรุงเทพฯ-อุตสาหกรรมอาหารเสริมไทยยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังผู้บริโภคยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ ความงาม และการดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอาหารเสริมไทยมีมูลค่าสูงถึง กว่า 90,000 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่ม Liquid Supplement และ Functional Supplement ที่เติบโตอย่างโดดเด่น จากความต้องการสินค้าที่ “ดื่มง่าย ดูดซึมเร็ว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เร่งรีบ”
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด “BioActive+” แบรนด์น้องใหม่ระดับโลกที่ปักหมุดเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 5 พฤษภาคม 2568 กลายเป็นผู้เล่นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาด ด้วยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ชัดเจน การลงทุนทางการตลาดระดับแมส และนวัตกรรม Concentrated Liquid Supplement ที่โดดเด่นในแง่การดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ยอดขายก้าวกระโดดใน 4 เดือนแรกเพียง 4 เดือนหลังการเปิดตัว (5 พฤษภาคม– 9 กันยายน 2568) “BioActive+” ทำยอดขายพุ่งทะลุ 921 ล้านบาท (ข้อมูลซัปพอร์ต จาก Insight Data ของยอดขาย นับตั้งแต่ วันที่ 5 พฤษภาคม - 9 กันยายน 2568)
แบรนด์มียอดคำสั่งซื้อสิ้นค้าทั้งหมด 1,541,707 กล่อง หรือ จัดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 15 ล้านหลอด คิดเป็นวันละ 121,394 หลอด ชั่วโมงละ 5,058 หลอด นาทีละ 84 หลอด (ข้อมูลซัปพอร์ต จาก Insight Data ของยอดขาย นับตั้งแต่ วันที่ 5 พฤษภาคม - 8 กันยายน 2568) และตั้งเป้าแตะ 1,500 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2568 หรือคิดเป็น Market Share ประมาณ 3% ของตลาดอาหารเสริมไทย
ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการเปิดตัว 4 สูตรหลัก ได้แก่
·Concentrated Liquid Collagen – คอลลาเจนเข้มข้น รส Mixed Berry ฟื้นฟูโครงสร้างผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น
·Concentrated Liquid Asta Drink – แอสตาแซนธินเข้มข้น รส Fruit Punch ผิวเด็กทนแดดและช่วยปลุดพลังงานระดับเซลล์
·Concentrated Liquid Gold – สูตรต่อต้านอนุมูลอิสระ รส Fresh Lemon พร้อมDuo TetraSOD และ GF Fermenta MnSOD
·Concentrated Liquid Gluta – สูตรเพื่อผิวกระจ่างใส รส Strawberry Lychee ผสม Duo กลูต้าไธโอนและเซราไมด์จากข้าวญี่ปุ่น
และยังมีแผนเปิดตัวสูตรใหม่ในช่วงปลายปี อีก 3 SKUs เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การตลาดแบบ 360°
ความโดดเด่นของ BioActive+ ไม่ได้อยู่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงการสร้างแบรนด์และการตลาดที่เข้มข้น ครอบคลุมทั้ง Branding – Communication – Sales Activation บนงบการสร้างแบรนด์ และการตลาดที่วางไว้อยู่ที่ 10-15% จากเป้ายอดขาย ในปี 68 ได้แก่
·สร้างแบรนด์ Premium Liquid Supplement ด้วยภาพลักษณ์ชัดเจน นำเสนอสินค้าคุณภาพสูงในรูปแบบที่แตกต่าง
·พรีเซนเตอร์คนแรก “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” สำหรับสูตร Gold เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความหรูหราและเชื่อมโยงกับความเป็น Global Brand
·Integrated 360° Campaign “Paint the Town RED” ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท สร้างกระแสผ่านสื่อ Out-of-Home (เช่น LED ตึกใบหยก) จับมือ EM District และแบรนด์สกินแคร์ระดับโลก Kiehl’s ทำ Co-Promotion
·Affiliate Marketing & TikTok Shop เป็นช่องทางหลักสร้างยอดขาย โดย Insight Data จาก TikTok ชี้ว่าโมเดล “ปักตะกร้า” ช่วยเร่ง Conversion ได้จริง
·Big Campaign “9.9” ตั้งเป้ายอดขายเดือนกันยายน 100 ล้านบาท พร้อม Live มาราธอน ที่ตั้งเป้ายอดขาย 30 ล้านบาท และแจกของรางวัล Luxury มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท สร้างทั้งยอดขายและ Brand Engagement
แผนขับเคลื่อนโค้งสุดท้ายปี 2568
สำหรับ 4 เดือนสุดท้ายของปี BioActive+ เตรียมเดินหน้าขยายตลาดเต็มกำลัง ด้วยกลยุทธ์ Omnichannel Expansion โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 SKUs พร้อมใช้งบการตลาดเพิ่มเติมเพื่อสร้าง Awareness และทดลองซื้อ ควบคู่กับการใช้ Data-Driven Marketing & Personalization ผ่าน CRM เพื่อนำเสนอแคมเปญเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะบุคคล (Remarketing & Personalized Campaigns) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขาย
ดร.วาสนา อินทะแสง ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตคนไทย ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ และการวิจัยเชิงลึก เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
ด้าน คุณสุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร ผู้ร่วมก่อตั้ง เสริมว่า “BioActive+ ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์อาหารเสริม แต่เป็นแบรนด์ที่ช่วยสร้างไลฟ์สไตล์สุขภาพที่ยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทั้งในแง่สุขภาพ ความงาม และการฟื้นฟูร่างกาย”
ก้าวสู่ Key Player ตลาด Functional Health
จากการวางกลยุทธ์แบรนด์อย่างแข็งแกร่ง การสื่อสารสอดคล้องต่อเนื่อง และการลงทุนด้านการตลาดอย่างเป็นระบบ “BioActive+” กำลังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็น Key Player รายสำคัญในตลาดอาหารเสริมแนว Functional Health ของไทย และเตรียมขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน และ ประเทศในเอเชีย ในอนาคตอันใก