In Bangkok
กทม.เข้มกวดขันจับปรับขับขี่บนทางเท้า ติดกล้องAI /เน้นปลอดภัยใช้ทางม้าลาย

กรุงเทพฯ-กทม. เข้มกวดขันจับปรับขับขี่บนทางเท้า-ปรับปรุงกายภาพ-ติดกล้อง AI สร้างความปลอดภัยการใช้ทางม้าลาย
นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวกรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนข้ามทางม้าลายบริเวณหน้าโรงพยาบาล (รพ.) กรุงเทพคริสเตียน ถนนสีลมว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานข้อมูลกับสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งมหาเมฆ และตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พบว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับรถมาจากทางตรงฝั่งถนนสีลม (ขาออก) ไม่ได้ฝ่าฝืนกลับรถบนทางม้าลายจนพุ่งชนผู้เสียหาย โดยขณะที่ผู้ขับขี่ได้ขับมาถึงจุดเกิดเหตุบนทางม้าลายหน้า รพ. กรุงเทพคริสเตียน ไม่ได้ชะลอความเร็ว ขณะที่รถคันอื่น ๆ ได้หยุด เพื่อรอให้คนข้าม จังหวะนั้นผู้เสียหายได้ก้าวลงมาจากทางเท้า รถจักรยานยนต์จึงพุ่งเข้าชนจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้เสียหายถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน โดยได้รับบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อยและสามารถกลับบ้านได้ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยการใช้ทางม้าลายบริเวณดังกล่าว สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำแผนรณรงค์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง ทั้งลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แก่ผู้ขับขี่และกำชับวินจักรยานยนต์รับจ้างให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่จอด หรือขับขี่บนทางเท้า และไม่กลับรถบนทางม้าลาย หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันและเฝ้าตรวจจับผู้ฝ่าฝืนในช่วงเวลาเร่งด่วน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ผู้สัญจรทางม้าลายบริเวณดังกล่าว เพื่อความสะดวกปลอดภัยแก่ผู้สัญจร ส่วนมาตรการระยะยาวได้ประสานสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) พิจารณาติดตั้งกั้นเสา หรือคันชะลอความเร็วในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับป้องกันอุบัติเหตุ อีกทั้งยังมีมาตรการปลูกฝังวินัยจราจร โดยสร้างการรับรู้ในกลุ่มเยาวชน ด้วยการขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่าย “เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” ในการติดตั้งป้ายจราจรอิเล็กทรอนิกส์ “ชะลอเพื่อรอยยิ้ม” จัดกิจกรรมให้ความรู้ครูและนักเรียนโรงเรียนในสังกัด กทม. เขตบางรัก รวม 5 โรงเรียน เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจรให้เด็ก เยาวชน และประชาชนบริเวณโดยรอบโรงเรียน
นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวว่า สจส. ได้ประสานความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อย่างต่อเนื่องในการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจราจรทางบก พ.ศ.2522 เพื่อป้องปรามการกระทำผิด พร้อมทั้งร่วมกับภาคีเครือข่ายรณรงค์เสริมสร้างความปลอดภัยการใช้ทางม้าลายในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ปฏิบัติตามกฎหมาย สร้างความปลอดภัยในการสัญจร ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางต่าง ๆ รวมถึงได้ปรับปรุงกายภาพทางข้ามให้มีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและจัดเทศกิจประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท้องที่ เพื่อกวดขันวินัยจราจร
ขณะเดียวกัน สจส. ได้เพิ่มจุดติดตั้งสัญญาณไฟแบบนับถอยหลัง เพิ่มสัญลักษณ์ป้ายเครื่องหมาย การตีเส้นเตือนให้ชะลอความเร็วและการติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI เพิ่มเติมในจุดที่มีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดกฎจราจรบ่อยครั้ง และได้เริ่มนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาการขับขี่บนทางเท้า ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย โดยติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดจอด หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งดำเนินการติดตั้งแล้วใน 50 เขต รวม 100 จุด ตั้งแต่เดือน ส.ค. 67 โดยระบบจะตรวจจับโดยกล้อง CCTV ด้วยเทคโนโลยี AI จะส่งข้อมูลภาพและป้ายทะเบียนของผู้ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้าไปยังสำนักงานเขต ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจะตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลทะเบียนรถของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และตรวจสอบภูมิลำเนากับฐานข้อมูลของ กทม. เพื่อจัดส่งจดหมายไปรษณีย์ให้ผู้กระทำผิดมาพบเจ้าหน้าที่ยังสำนักงานเขต พิจารณาดำเนินการตาม พ.รบ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ประกอบกับ พ.ร.บ. การปรับพินัย พ.ศ. 2565 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนการเปิดจุดกลับรถจักรยานยนต์ก่อนถึงทางข้าม สจส. ได้สำรวจความเห็นจากผู้ใช้รถและผู้ใช้ทางข้าม พบว่า มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยผู้ที่เห็นด้วยให้เหตุผลว่า จุดกลับรถดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกการสัญจร ขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของคนข้ามถนน โดย สจส. จะรับข้อสังเกตดังกล่าวนำไปปรับปรุงพัฒนารูปแบบจุดกลับรถให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัยทุกคน