In Global

‘เมืองเหอฉือ’แหล่งผลิตไหมชั้นนำของจีน มุ่งปั้นแบรนด์ระดับโลก



ปักกิ่ง, 17 ก.ย. (ซินหัว) - มีการจัดงานส่งเสริมอุตสาหกรรมหม่อนไหมของเมืองเหอฉือ ภายใต้แบรนด์ “กุ้ย” (ชื่อเดิมของกว่างซี)  ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมุ่งสร้างแบรนด์ ขยายตลาด และสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าวของเหอฉือ 

สถาบันวิจัยดัชนีซินหัวยังได้ประกาศผลการวิจัยเบื้องต้นของดัชนีการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงไหมซินหัว-เหอฉือในงานครั้งนี้อีกด้วย

เฉาชงจวิน รองนายกเทศมนตรีเมืองเหอฉือ กล่าวว่าเหอฉือตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงแห่งผ้าไหมจีน” โดยมีพื้นที่เพาะปลูกหม่อนและผลผลิตรังไหมติดอันหนึ่งของเมืองระดับแคว้นทั่วประเทศติดต่อกันถึง 20 ปี และมีกำลังการผลิตแปรรูปไหมสูงสุดในประเทศต่อเนื่อง 15 ปี 

เมืองเหอฉือได้ออกแผนพัฒนาอุตสาหกรรมครบวงจรในปี 2022 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมหม่อนไหม โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าผลผลิต 5 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.23 แสนล้านบาท) ภายในปี 2025 และในปี 2024 ยังได้ประกาศแผนปฏิบัติระยะสามปี ประกอบด้วย 32 มาตรการ ครอบคลุม 7 ด้านสำคัญ หนึ่งในนั้นคือการยกระดับฐานการเลี้ยงไหม โดยตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เหอฉือได้ลงทุนเงินกองทุนการเกษตรจำนวน 1 พันล้านหยวน (ราว 4.56 พันล้านบาท) 

เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การเลี้ยงไหมแบบรวมกลุ่ม และการสาวไหมด้วยระบบอัตโนมัติ ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกัน เมืองเหอฉือก็ได้สร้าง ศูนย์การค้ารังไหมและผ้าไหมจีน-อาเซียน และศูนย์นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และเสริมสร้างการบูรณาการของห่วงโซ่อุปทาน

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2025 รัฐบาลประชาชนเมืองเหอฉือร่วมกับศูนย์บริการสารสนเทศเศรษฐกิจจีน (CEIS) ได้เปิดตัวการรวบรวมดัชนีการพัฒนาอุตสาหกรรมหม่อนไหมซินหัว-เหอฉือ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้วัดทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม สนับสนุนการกำหนดนโยบายบนพื้นฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ ตลอดจนเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า และแนวทางในการดำเนินงาน

รายงานระบุว่า อุตสาหกรรมหม่อนไหมครอบคลุมพื้นที่ 11 อำเภอและเขต รวมถึง 131 ตำบลทั่วเหอฉือ สร้างประโยชน์ให้เกษตรกรเกือบ 1 ล้านคน และในปี 2024 รายได้เฉลี่ยจากการเพาะเลี้ยงหม่อนไหมของครัวเรือนสูงกว่า 5 หมื่นหยวน (ราว 2.2 แสนบาท) ต่อปี

ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งการประสานงานด้านทรัพยากรไปจนถึงการนำเสนอผ่านเวทีแฟชั่น  ทำให้ “ผ้าไหมเหอฉือ” เริ่มก้าวเข้าสู่เวทีนานาชาติ และยกระดับตัวเอง จาก “แหล่งผลิตไหม” สู่การเป็น “ศูนย์กลางไหมชั้นนำ”

(เรียบเรียงโดย Yang Yifan,  Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/534163_20250918 , https://en.imsilkroad.com/p/347570.html)