Authority & Harm
รวบเด็กมือบอนพ่นสีทับภาพหลวงพ่อคูณ รับสารภาพอ้างทำเพื่อท่าท้ายแก๊งค์คู่แข่ง
        นครราชสีมา-สะเทือนใจคนโคราช มือดีพ่นสีทับ หลวงพ่อคูณบนกำแพงกลางเมือง ชาวบ้านวอนตำรวจล่าตัวคนทำ และในเวลาต่อมา ตร.โคราชรวบเยาวชน 17 พ่นสีทับ หลวงพ่อคูณ กลางเมือง รับทำเพราะท้าทายแก๊งคู่แข่ง ประกาศแสงยานุภาพ พร้อมนำ ทำแผนรับสารภาพ สะท้อนศึกกราฟฟิตี้ 2 แก๊ง เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษ รับผิดเป็นบทเรียนชีวิต

วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จากกรณี มีผู้ไม่หวังดีลงมือพ่นสีดำเป็นลักษณะคล้ายชื่อของตัวเอง ทับผลงานภาพวาด “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ซึ่งศิลปินเคยบรรจงสร้างสรรค์ไว้บนกำแพงกลางเมือง โดยเหตุเกิดบริเวณซอยหลังโรงเรียนมารีย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ภาพวาดดังกล่าวถูกพ่นสีจนเสียหายไปบางส่วน สร้างความไม่พอใจและหดหู่ใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง นายสนอง ตำกระโทก อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า “หลวงพ่อคูณเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวโคราชและคนไทยทั่วประเทศ การที่มีคนมากระทำเช่นนี้ถือว่าไม่เหมาะสม และทำให้ประชาชนเสียความรู้สึก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบและขอโทษต่อชาวโคราชโดยเร็ว”
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลายเพจชื่อดังในโคราชต่างนำภาพไปเผยแพร่พร้อมแสดงความไม่พอใจ และเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต
ตร.โคราชรวบเด็ก17พ่นสีทับเพื่อท้าทายแก๊งคู่แข่ง

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นเยาวชายนามสมมุติ “ชัย” อายุ 17 ปี โดยรับสารภาพว่าได้ลงมือพ่นสีเพียงคนเดียว มีแรงจูงใจจากการแข่งขันของกลุ่มกราฟฟิตี้ ต้องการแสดงอำนาจต่อคู่แข่ง แต่ไม่คาดคิดว่าจะก่อให้เกิดผลเสียรุนแรงตามมา เจ้าตัวได้กล่าวขอโทษต่อสังคมและยอมรับผิด ตำรวจจึงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทำแผนรับสารภาพ สะท้อนศึกกราฟฟิตี้2แก๊ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้คุมตัวเยาวชนชายอายุ 17 ปี ผู้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ บรรยากาศการทำแผนเป็นไปด้วยความเงียบงัน ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มามุงดูด้วยความหดหู่ใจ โดยผู้ต้องหามีสีหน้าสลด ยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ตนเองเป็นคนพ่นสีทับภาพจริง สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งกับกลุ่มคู่อริในวงการกราฟฟิตี้ ที่ก่อนหน้านี้ได้พ่นทับผลงานของตนเอง จึงบันดาลโทสะและตัดสินใจพ่นชื่อภาษาอังกฤษของตนลงไป ชื่อว่าสมัคร แต่ไม่ทันคิดว่าจะไปซ้ำทับภาพวาดหลวงพ่อคูณที่เป็นที่เคารพของคนทั้งเมือง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้ขอโทษต่อสังคม และยอมรับว่าการกระทำครั้งนี้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต พร้อมสัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก โดยยอมรับผิดทุกอย่างและพร้อมเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การกระทำครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการทำลายทรัพย์สิน แต่ยังสร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคดีดังกล่าวจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ประสิทธิ์ วนะชกิจ/ข่าวนครราชสีมา
