Authority & Harm
ชาวสระโพนทองไม่เอา! สร้างอ่างเก็บน้ำ 'ช่องพันลำ'จ่อยื่นคัดค้านกับ'ธรรมนัส'
ชัยภูมิ-เมื่อเวลา 15.00 น วันที 4 ตุลาคม ชาวบ้านตำบลสระโพนทอง อ เกษตรสมบูรณ์ จ. ชัยภูมิ ได้ร้องเรียนถึงผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิ ว่าได้รับผลกระทบจากการสร้างอ่างช่องพันลำที่ ตำบลสระโพนทอง อ เกษตรสมบูรณ์ จ. ชัยภูมิ จึงได้เดินทางลงพื้นที่อ่างช่องพันลำนี้โดยได้ดำเนินการก่อสร้างมานานมากแล้ว ชาวบ้านต้องอาศัยแหล่งน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำในการทำการเกษตรของชาวบ้าน ได้รับประโยชน์กว่า 10,000 ไร่ ในช่วงรัฐบาลของนายก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดพายุอย่างแรง ทำให้น้ำระบายลงบริเวณประตูฝายน้ำล้นลงไม่ทัน จึงทำให้สันฝายขาด และไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมฝายได้ เนื่องจากงบประมาณของทาง อบต.สระโพนทอง ไม่เพียงพอในการจะซ่อมแซมได้ ต่อมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ผลักดันงบประมาณให้มีการก่อสร้าง โดยในช่วงนั้นหลังจากที่มีการรับเหมาก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยและดำเนินการก่อสร้างไปนั้น ทางผู้รับเหมาได้มีการทิ้งงาน ทางชลประทานจึงได้มีการระงับการก่อสร้าง และมีการฟ้องร้องกันระหว่างกรมชลประทานกับผู้รับเหมา ยาวมากว่า 10 ปี

ก่อนหน้าวันนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เวลาประมาณ 16.30 น.ชาวบ้านกว่า 10 คน ทราบข่าวว่า ท่าน ฯพนฯรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์( รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ) เดินทางมาที่ อ่างเก็บน้ำหนองกลางโคก บ้านหนองแดง หมู่ 5 และบ้านกุดจิก หมู่ 8 ตำบลหนองข่า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จึงเดินทางมาเพื่อเข้าไปยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างอ่างช่องพันลำ ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ กรณีสร้างอ่างเก็บน้ำช่องพันลำ ที่ขาดชำรุดมาเป็นเวลา กว่า 20 ปี เพื่อขอความเป็นธรรมต่อท่าน ฯพนฯรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์( รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ) สืบเนื่องจากกรมชลประทานไม่สร้างที่เดิม แต่ขยับกินเอาพื้นที่ทำการเกษตรกรรมของชาวบ้านลงมาอีกประมาณ 200 เมตร ทำให้อ่างที่จะสร้างใหม่ทับพื้นที่ชาวบ้าน กว่า 91 ไร่ มีทั้งพื้นที่ ที่เป็น สปก.4-01 จำนวน 41ไร่ และพื้นที่อื่นๆอีก 50 ไร่ โดยไม่มีการจ่ายเงินค่าเวรคืน

นางสายมัย ชานกว้าง อายุ 58 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ตำบลสระโพนทอง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิพร้อมคณะชาวบ้าน 10 คน กล่าวว่า ตนเองและคณะนั้นมีที่ทำมาหากินอยู่รวมทั้งหมดเพียง 91 ไร่ เท่านั้น และส่วนของตนเองเพียง 10 ไร่ ถ้าทางหน่วยงานภาครัฐจะมาก่อสร้างอ่างช่องพันลำ คือไม่สร้างที่เดิมที่เคยสร้างมาแล้ว โดยจะขยับพื้นที่จากที่เดิมมาอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะมีผลกระทบคือจะทับที่นาของตนเองทั้งหมดจะไม่เหลือเลยและก็จะไม่มีที่ทำกินอีกแล้วไม่ทราบว่าจะไปทำมาหากินที่ไหนอย่างไรและตนเองก็อายุมาก รายอื่นก็เหมือนกัน มีความรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ วันนี้ตนเองและชาวบ้านจึงได้เดินทางเพื่อมายืนหนังสือขอความเป็นธรรมให้แก่ตนและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย

ด้านนายโกมิน คำหนูไทย หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างที่ 2 โครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 6 เล่าว่า ในช่วงนั้นตนเองยังไม่ได้มารับตำแหน่ง และทราบว่าโครงการดังกล่าวได้มีการระงับไปแล้วและหลังจากนั้นรัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณมาให้ใหม่ในวงเงินงบประมาณ 135 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างใหม่ เป็นขนาดเล็ก โดยแบ่งออกเป็นงบประมาณ ในช่วง 2 ปี ระหว่างปี 2569และ2570 โดยในช่วงนี้อยู่ระหว่างการเข้าไปศึกษาและสำรวจดำเนินการความเป็นไปได้ว่าเป็นอย่างไร จากการที่ได้เข้าร่วมประชุมที่ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ กับคณะติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริห์ ชลประจังหวัดชัยภูมิ ก่อสร้างกลางที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง โครงการอ่างเก็บน้ำช่องพันลำ ตามที่ราษฎรได้ฎีกาไป
และต่อมาได้รับมอบหมายจากสำนักงานชลประทานที่ 6 โดยกรมชลประทาน ให้โครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 6 เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เข้าชี้แจงโครงการครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสระโพนทอง พร้อมทำแผนที่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ
โดยมีเนื้อที่ทั้งสิ้นที่ได้รับผลกระทบ 91 ไร่ จำนวน 13 แปลง แบ่งเป็น สปก.จำนวน 7 แปลง จำนวน 44 ไร่ เป็นพื้นที่ ภบท.5 (เขตป่าไม้) 6 แปลง จำนวน 47 ไร่ ในที่ประชุมถามถึงจะมีค่าชดเชยหรือไม่ เท่าไร ตอบไปว่าเป็นโครงการชลประทานขนาดเล็กแต่จะมีการจ่ายค่าชดเชยเพียงใดยังตอบไม่ได้ว่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไร ต้องมีคณะกรรมการในการประเมิน ในช่วงนั้นเหมือนจะเข้าใจและพร้อมที่จะให้ดำเนินการ ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่และชี้แจงให้อีกครั้งกับหน่วยงานวางโครงการจากส่วนกลางกรมชลประทาน ได้ถามย้ำถึงราคาอีกคำตอบของผมยังเช่นเดิม
หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และการเข้าพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นการพบเฉพาะตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผมกระทบทั้ง 13 แปลงท่านั้น ส่วนในเรื่องของเหตุผลที่ไม่สามารถดำเนินการสร้างในที่เดิมเกิดจากสาเหตุ 1.พื้นที่เก่าเป็นพื้นที่ที่มีคดีความ ไม่มีข้อมูลถึงผลคดีความ 2.ถ้าสร้างพื้นที่เก่าขอบเขตน้ำท่วมกินลึกเข้าไปในเขตุอุทยาแห่งชาติภูแลคา ฯลฯ 3.ความจุที่ได้ไม่เป็นไปตามเกณฑ์การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งจะต้องเก็บกักได้ที่ 50% ของน้ำที่ไหลเข้า 4.ด้านความมั่นคงด้านวิศวกรรรมโดยทางกรมชลประทานเองก็พยายามหาทางออกให้เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นได้เป็นไปในแนวทางที่ดีต่อไป
