กทม.ปลุกผีคลองลาดพร้าว-คลองเปรมฯ ปูพรมแก้ปัญหารุกล้ำยกระดับชีวิตปชช.

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 - 17:03 น.

กรุงเทพฯ-เดินหน้าพัฒนาคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ปูพรมแก้ปัญหารุกล้ำ ยกระดับชีวิตริมคลอง 

(8 ต.ค. 68) เวลา 10.30 น. นายจิระเดช กรุณกฤตกุล รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมวังสะพานขาว ชั้น 18 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 

ในที่ประชุม รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้รายงานความก้าวหน้าตามแผนการปฏิบัติการ ปี 2569 และปัญหาอุปสรรคการพัฒนาคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.คลองลาดพร้าว และโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ 

โครงการพัฒนาคลองลาดพร้าว และโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร เป็นโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินการพัฒนาคลองสายหลัก โดยในระยะเร่งด่วนให้ดำเนินการ 9 คลองสายหลัก ที่มีปัญหาการรุกล้ำจำนวนมาก และทำให้เกิดปัญหาด้านการระบายน้ำ ปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่กันอย่างแออัด ปัญหาคุณภาพน้ำ และปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งคลองสายหลัก 9 คลอง ได้แก่ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางเขน คลองบางซื่อ คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองพระโขนง คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลองพระยาราชมนตรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2 คลอง คือคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร โดยกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำแผนแม่บท เพื่อวางแผนการพัฒนาด้านต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน นอกจากนี้ รัฐบาลได้มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ สร้างความเข้าใจกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 

โครงการพัฒนาคลองลาดพร้าว มีรายละเอียดและความก้าวหน้า ดังนี้ คลองลาดพร้าว เป็นคลองระบายน้ำสายหลัก รองรับการระบายน้ำในพื้นที่ 8 เขต ได้แก่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตห้วยขวาง เขตลาดพร้าว และเขตวังทองหลาง เนื่องจากเป็นคลองที่ต่อเชื่อมระหว่างคลองหกวาสายล่างกับคลองแสนแสบ ซึ่งมีอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า-รามคำแหง ทำให้เป็นคลองที่มีศักยภาพสูงหากได้รับการพัฒนา ดังนั้น โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.คลองลาดพร้าว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและแก้ปัญหาการรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะ รวมถึงการพัฒนาภูมิทัศน์ริมฝั่งคลองให้สวยงาม โดยคลองลาดพร้าวเป็นคลองแรกใน 9 คลองสายหลัก ซึ่งกรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนินการพัฒนาคลองลาดพร้าว โดยกรุงเทพมหานคร่ ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.คลองลาดพร้าว โดยว่าจ้าง บริษัท ริเวอร์ เอ็นจิเนียร์ริ่ง จำกัด ดำเนินการโครงการก่อสร้าง ในปี 2559-2565 งบประมาณค่าก่อสร้าง 1,645 ล้านบาท ส่งมอบพื้นที่ได้ความยาว 26,008 เมตร จากทั้งหมด 45,300 เมตร คิดเป็น 63.70% ของพื้นที่ทั้งหมด ตอกเสาเข็มเขื่อนได้ความยาว 24,030 เมตร คิดเป็น 58.84% มีผลงานรวมทั้งโครงการ คิดเป็น 55.50% ส่วนปัญหาอุปสรรคที่เป็นประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.มีกลุ่มผู้ต่อต้านไม่เข้าร่วมและไม่ยินยอมรื้อบ้านกระจายตัวอยู่ในชุมชน ทำให้บางชุมชนไม่สามารถดำเนินการได้ หรือบางชุมชนไม่สามารถก่อสร้างได้พร้อมกันทั้งชุมชน ต้องดำเนินการเป็นช่วง ๆ ตามพื้นที่รื้อย้ายได้จริง 2.การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ไม่ยอมรื้อบ้านใช้ระยะเวลานาน ไม่สามารถใช้ผลทางคดีไปเป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ต่อต้านไม่เข้าร่วมโครงการได้ 3.ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองลาดพร้าว ทำงานก่อสร้างล่าช้า และได้หยุดงานก่อสร้างโดยสิ้นเชิง ทำให้มีการบอกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร่ ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนรัฐบาล ดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์ พระรามเก้า-รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ (ต่อจากเดิม) เป็นเงิน 1,430 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้ตัวผู้รับจ้างแล้วคือ บริษัท สามประสิทธิ์ จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการอนุมัติจ้าง คาดว่าจะลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม 2568 

ในส่วนของการพัฒนาคลองเปรมประชากร ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ แบ่งการทำงานเป็น 4 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 จากคลองบ้านใหม่ ถึงบริเวณหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ความยาวประมาณ 580 เมตร ดำเนินการเสร็จแล้ว ช่วงที่ 2 จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงคลองบ้านใหม่ และจากหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ถึงถนนสรงประภา ความยาวประมาณ 5,000 เมตร ได้ผลงาน 24.80% บ้านรุกล้ำ 5 ชุมชน จำนวน 1,062 หลัง รื้อแล้ว 102 หลัง ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภา ถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาวประมาณ 9,500 เมตร ได้ผลงาน 60.51% บ้านรุกล้ำ 13 ชุมชน จำนวน 1,707 หลัง รื้อย้ายแล้ว 944 หลัง ช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะ ถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาวประมาณ 10,200 เมตร ได้ผลงาน 64.25% บ้านรุกล้ำ 14 ชุมชน จำนวน 1,625 หลัง รื้อย้ายแล้ว 755 หลัง สำหรับผลการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ในภาพรวมส่งมอบพื้นที่ได้ 14,980 เมตร คิดเป็น 59.25% ก่อสร้างเขื่อนได้ความยาว 14,200 เมตร คิดเป็น 59.17% รื้อย้ายบ้านรุกล้ำได้ประมาณ 1,800 หลัง จากทั้งหมด 4,398 หลัง ส่วนปัญหาอุปสรรคที่เป็นประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนมีความล่าช้า เนื่องจากมีบ้านรุกล้ำที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ โดยกรุงเทพมหานครได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และร่วมลงพื้นที่เจรจาสร้างความเข้าใจ 2.มีการก่อสร้างบ้านมั่นคงก่อนการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือไม่ให้ก่อสร้างบ้านมั่นคงก่อนการก่อสร้างเขื่อน และแก้ไขรูปแบบเพื่อให้สามารถก่อสร้างเขื่อนได้ 

จากนั้น ในที่ประชุมได้รายงานความก้าวหน้าตามแผนการปฏิบัติการปี 2569 และปัญหาอุปสรรค การสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ชุมชนริมคลอง โดยกรมธนารักษ์ การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) การสนับสนุนการบริหารงานของสหกรณ์เคหสถานชุมชนริมคลอง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การสนับสนุนการพัฒนาด้านต่าง ๆ โดยการไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวง ส่วนการพัฒนาคลองเปรมประชากร ในพื้นที่ ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี การก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) การสนับสนุนการพัฒนาด้านต่าง ๆ โดยจังหวัดปทุมธานี รวมถึงพิจารณาร่างคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการพัฒนาคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร เพื่อให้การบริหารจัดการโครงการพัฒนาคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

ในการนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการพัฒนาคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กรมธนารักษ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง จังหวัดปทุมธานี กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กองทัพภาคที่ 1 กอ.รมน.กทม. และที่ปรึกษาโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร (SCG) ร่วมประชุม