Travel Sport & Entertain

ทูตฯอิสราเอลชี้นทท.อิสราเอลเที่ยวไทย กว่า4.6แสนคนชี้ประทับใจการต้อนรับ



สุราษฏร์ธานี-เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล กว่า 460,000 คน เดินทางมาเยือนประเทศไทย เหตุผลหลักๆ เนื่องจากชื่นชอบ และประทับใจการต้อนรับของคนไทย โดยเฉพาะพื้นที่เกาะท่องเที่ยว รวมถึง รู้สึกปลอดภัยในประเทศไทย ส่วนการเข้าพบครั้งนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน หลังจากทราบข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อ ถึงสถานการณ์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้รับการตรวจสอบและจับตามองจากเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับนักท่องเที่ยว โดยเอกอัครราชทูตอิสราเอล ยืนยันว่า นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ตั้งใจมาท่องเที่ยวเพราะชื่นชอบประเทศไทย จะมีเพียงส่วนน้อยที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือทำผิดกฎหมาย ซึ่งยินดีให้หน่วยงานของไทยดำเนินการตามกฎหมายเช่นเดียวกับชาวต่างชาติทุกประเทศ 

 ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หน่วยงานของรัฐ ถูกตั้งคำถามมากมาย ถึงการดำเนินการกับชาวต่างชาติที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาทำเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งด้านความมั่นคง การอยู่อาศัยในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่อนุญาต (over stay) การทำงานหรือทำธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย และปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะพฤติกรรมการต่ออายุวีซ่าต่อเนื่องหลายครั้ง หรือระยะยาว จนต้องสงสัยว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อทำธุรกิจหรือทำกิจการบางอย่าง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคณะทำงานชุดเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบและดำเนินการกับเรื่องนี้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือมุ่งเป้ากับชาวอิสราเอล หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง พร้อมทั้งย้ำว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งเน้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ ให้บังคับใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้กระทบต่อนักท่องเที่ยวในภาพรวม ส่วนกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่เกาะพะงัน ได้ร้องเรียนถึงการรวมตัวกันประกอบศาสนกิจในชาบัท หรือ คาบัท ของชาวอิสราเอล ในลักษณะพื้นที่ปิดไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์หรือรับรู้ว่าทำกิจกรรมอะไร ส่งผลให้เกิดความไม่สบายใจของคนในพื้นที่ ตลอดจน มีความยากลำบากในการเฝ้าระวังความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จึงขอให้สถานเอกอัครราชทูต ตรวจสอบเรื่องการจดทะเบียน ขออนุญาตจัดตั้งศาสนสถานเพื่อประกอบศาสนกิจตามกฎหมายไทย เช่นเดียวกันทุกๆศาสนา 

 นอกจากนี้ ยังขอให้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารในแบบที่ไม่เป็นทางการ ระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแจ้งปัญหาต่างๆระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยยืนยันว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มิได้เลือกปฏิบัติกับชาวอิสราเอล และพร้อมต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่หากพบกลุ่มที่กระทำผิดกฎหมาย ก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตา

สิทธิเณศ เห้งทับ สุราษฎร์ธานี