ECO & ESG
มูลนิธิอินเตอร์เอสโอเอสเผยแพร่รายงาน เตือนความเสี่ยงสภาพอากาศสุดขั้ว
กรุงเทพฯ – มูลนิธิ อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS Foundation) เผยแพร่รายงานสมุดปกขาวฉบับล่าสุดในหัวข้อ "สภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติ ผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อพนักงานในประเทศและทั่วโลก" (Extreme Weather and Natural Disasters – Security Impacts on Domestic and Global Workforces) รายงานฉบับนี้มุ่งวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อันเนื่องมาจากสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถดูแล ปกป้อง และเสริมสร้างความพร้อมให้กับพนักงาน ในช่วงเวลาที่เผชิญกับความไม่แน่นอนและการหยุดชะงักของการดำเนินงาน
รายงานฉบับใหม่นี้อ้างอิงข้อมูลจากการปฏิบัติงานจริงและกรณีศึกษาจากสถานการณ์จริง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภัยธรรมชาติเป็น "ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง" ที่ซ้ำเติมช่องโหว่เดิมและก่อให้เกิดความท้าทายด้านความปลอดภัยรูปแบบใหม่ นอกจากนี้ รายงานยังนำเสนอแนวทางเชิงปฏิบัติเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับการดูแลความปลอดภัยของพนักงาน รักษาความต่อเนื่องในการเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็น และสนับสนุนสุขภาวะของพนักงานในช่วงที่เกิดสถานการณ์วิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณไค บอชมันน์ (Kai Boschmann) กรรมการบริหารมูลนิธิ อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส กล่าวว่า "ความสามารถขององค์กรในการรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติ ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งและขาดไม่ได้ รายงานฉบับนี้จะช่วยให้องค์กรก้าวจากการตระหนักรู้ไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติเข้ากับกระบวนการเฝ้าระวังความเสี่ยงและกลยุทธ์หลักขององค์กร เพื่อปกป้องทั้งบุคลากรและความต่อเนื่องของการดำเนินงาน"
คุณริก คัดเวิร์ท (Rick Cudworth) กรรมการบริหารองค์กรรีซิเลียนซ์ เฟิร์สต์ (Resilience First) กล่าวเสริมว่า "การเกิดสภาพอากาศสุดขั้วที่มีความถี่และความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศเท่านั้น หากยังเป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่ส่งผลกระทบต่อทุกมิติของสังคมและภาคธุรกิจ ซึ่งการเสริมสร้างความสามารถในการรับมือนั้นต้องเริ่มต้นจาก 'คน' เป็นสำคัญ รายงานฉบับนี้จึงนำเสนอแนวทางเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถเสริมสร้างความพร้อมและความยืดหยุ่นให้กับพนักงาน ตลอดจนสนับสนุนให้พนักงานสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนได้อย่างมั่นคง"
ประเด็นสำคัญในรายงานประกอบด้วย
- การดูแลความปลอดภัยของบุคลากร: มาตรการสำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและการคุ้มครองพนักงาน
- ข้อมูลเชิงลึกระดับภูมิภาค: แนวทางที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ตั้งแต่คลื่นความร้อนไปจนถึงอุทกภัย
- กรอบการสนับสนุน: ขั้นตอนในการรักษาสุขภาวะของพนักงาน และการเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในช่วงวิกฤต
- กรณีศึกษาจากสถานการณ์จริง: ตัวอย่างองค์กรที่สามารถดูแลและสนับสนุนพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่เกิดภัยธรรมชาติ
รายงานฉบับใหม่นี้ต่อยอดมาจากรายงานฉบับก่อนหน้าในหัวข้อ "สภาพอากาศสุดขั้ว ผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานทั่วโลก" (Extreme Weather – Health Impacts on the Global Workforce) ซึ่งมุ่งวิเคราะห์ผลกระทบด้านสุขภาพและสุขภาวะของพนักงานทั่วโลก อาทิ ภาวะเครียดจากความร้อน โรคระบบทางเดินหายใจ ปัญหาสุขภาพจิต และความไม่ต่อเนื่องของการปฏิบัติงาน โดยรายงานทั้งสองฉบับต่างมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถดูแลและสนับสนุนบุคลากรได้อย่างรอบด้าน ในขณะที่ความเสี่ยงจากสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น
