In Thailand

ทส.กาฬสินธุ์ตรวจสอบพื้นที่ป่าสาธารณะ ตัดไม้ปลูกสร้างอาคารเรียน



กาฬสินธุ์-ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ป่าสาธารณะหลังที่ทำการ อบต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ หลังสื่อโซเชียลเผยแพร่ระบุมีการตัดไม้ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ โดยไม่มีการประชาคม ระบุเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ของทางราชการ แต่อยู่ในระหว่างดำเนินการขอเพิกถอน เบื้องต้นไม่พบการกระทำกระทำผิดซึ่งหน้าและไม้ของกลาง 

จากกรณีชาวบ้านใน ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเหตุตัดต้นไม้ในป่าสาธารณะประโยชน์ หลัง อบต.โคกสะอาด พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ไปชั่งกิโลขายเผาถ่าน ระบุมีการตัดไม้โดยไม่ได้ทำการประชาคม  อีกทั้งยังทำการเผาเศษไม้ เพิ่มค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขณะนายก อบต.โคกสะอาดแจง ตัดไม้เพื่อให้มีพื้นที่สร้างอาคารเรียน 3 ชั้น มูลค่า  8 ล้านบาทเศษ เพื่อดึงนักเรียนกลับมา หลังจำนวนนักเรียนลดลงเนื่องจากกลัวงูและสิงสาราสัตว์ในป่า ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด ที่บริเวณหลังที่ทำการ อบต.โคกสะอาด และโรงเรียน อบต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายประจัน ดาวังปา ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ โดยมีนายประเทือง นาถมทอง รองปลัด อบต.โคกสะอาด และเจ้าหน้าที่สำนักปลัดฯ ฝ่ายผู้บริหารโรงเรียน อบต.โคกสะอาด นำเดินสำรวจและให้ข้อมูล

นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการ ทสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ป่าสาธารณะดงหนองขี โดยพื้นที่ทั้งหมด 119 ไร่ อบต.โคกสะอาดขอใช้ 34 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะประเภทให้ส่วนราชการใช้ประโยชน์ อยู่ระหว่างการขอเพิกถอนกับกรมที่ดิน บริเวณนี้เคยใช้ประโยชน์มาแล้ว โดยเป็นสนามกีฬามาก่อน ขณะที่พื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารเรียน เคยมีไม้เล็กไม้น้อยประเภทกระถิน กระถินณรงค์ เกิดขึ้น รวมทั้งไม้ปลูก เช่น สะเดา ไม่ใช่ไม้หวงห้าม ในส่วนที่ว่าไม้ทุกประเภทในพื้นที่สาธารณะและอยู่ในระหว่างขอเพิกถอน สามารถตัดไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ หรือไม่ หรือไม่ต้องทำการประชาคมสามารถทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมที่ดิน เนื่องจากได้ขอใช้ประโยชน์และอยู่ในระหว่างการขอเพิกถอนดังกล่าว

ด้านนายประจัน ดาวังปา ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบท่อนไม้ตามที่ได้รับการร้องเรียน โดยเห็นเพียงร่องรอยเท่านั้น จึงไม่ทราบว่ามีการตัดไม้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นต้นไม้ในที่ดินของเรา ก็สามารถใช้ประโยชน์ของเรา หรือตัดไปจำหน่ายได้ แต่ถ้าอยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ ขายไม้แล้วต้องนำเงินเข้าหลวง แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่รู้มูลค่าไม้แค่ไหน ถ้าขายคงจะนำไปเผาถ่าน แต่ตามที่มาสำรวจวันนี้ ไม่พบผู้กระทำผิด ไม่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า หากจะหาตัวผู้กระทำผิด จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่น ต้องสอบถามทั้งฝ่ายร้องและฝ่ายถูกร้อง รวมทั้งพยานของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนต่อไป ในส่วนของฝ่ายป่าไม้ก็ทำได้แค่นี้ คือบันทึกการตรวจสอบขอเท็จจริงในเบื้องต้น ซึ่งกำลังรวบรวมอยู่ 

ขณะที่นายประเทือง นาถมทอง รองปลัด อบต.โคกสะอาด กล่าวว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่โล่ง โดยชาวบ้านได้เข้ามาทำนา พอมีการก่อตั้งที่ทำการ อบต.โคกสะอาด จึงขอคืนพื้นพื้นที่จากชาวบ้านที่เข้ามาทำนา จากนั้นขุดดินจากหนองขีมาปรับพื้นที่ สำหรับเป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ที่ตั้งขบวนพาเหรดนักกีฬา พอ 8 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ปล่อยให้มีต้นไม้เติบโตขึ้นมา ไม่มีการตัดไม้หรือทำความสะอาดอีกเลย อย่างไรก็ตาม อบต.โคกสะอาด ได้มีการทำเรื่องขอถอนสภาพหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) โดยขอครั้งแรกประมาณปี 2545-2546 ซึ่งยังอยู่ระหว่างรออนุมัติจากคณะกรรมการหลายคณะ ระบุพื้นตรงนี้ไม่ใช่พื้นที่ป่า แต่เป็นที่ใช้ประโยชน์ของทางราชการ และจะทำการก่อสร้างอาคารเรียน 3 ชั้นตามแบบของ สพฐ. ซึ่งผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว และจะดำเนินการก่อสร้างตรงนี้เลย