Think In Truth

นวพรมแดนโลก: ยุทธศาสตร์ลับSCOและ การรื้อสร้างอำนาจโลกใหม่ โดย: ฟอนต์ สีดำ



การผงาดของขั้วอำนาจบูรพาและรอยร้าวของระเบียบโลกเก่า

ในยามที่โลกก้าวเข้าสู่ย่ำค่ำของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แผ่นดินทั้งหลายกำลังสั่นสะเทือนจากแรงปะทะของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ ระเบียบโลกที่เคยอยู่ภายใต้การชี้นำของโลกตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ผู้สถาปนาตนเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมมานานหลายทศวรรษกำลังถูกท้าทายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

กลุ่มประเทศบูรพาที่รวมตัวกันภายใต้ องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation: SCO) ได้แปรเปลี่ยนจากพันธมิตรระดับภูมิภาคสู่ “ขั้วอำนาจใหม่” ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างระเบียบโลกแบบหลายขั้ว (Multipolar World) เพื่อสั่นคลอนภาพฝันอันลวงตาแห่ง “โลกขั้วเดียว” (Unipolar World) ที่ตะวันตกวาดไว้

นี่เป็นยุทธศาสตร์เชิงลึก “แผนลับ SCO 4 เสาหลัก ล้มตะวันตก” โดยถอดรื้อประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และพลังงาน เพื่อสำรวจบทบาทของสี่เสาหลักผู้ขับเคลื่อนอำนาจใหม่—จีน รัสเซีย อินเดีย และเบลารุส—ซึ่งกำลังร่วมกันหล่อหลอมโลกใบใหม่ที่อาจพลิกโฉมระเบียบอำนาจสากลไปตลอดกาล

1. แก่นแกนแห่ง SCO: จากป้อมปราการความมั่นคงสู่เวทีท้าทายอำนาจโลก

SCO ถือกำเนิดขึ้นในปี 2001 ด้วยภารกิจดั้งเดิมในการต่อสู้กับ “สามภัยร้าย” ได้แก่ ลัทธิก่อการร้าย (Terrorism) ลัทธิแบ่งแยกดินแดน (Separatism) และลัทธิสุดโต่ง (Extremism) แต่กาลเวลาทำให้กรอบความร่วมมือนี้เติบโตเกินขอบเขตของความมั่นคง กลายเป็นสถาบันที่ขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พลังงาน และการเมือง ซึ่งมีอิทธิพลต่อประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลก

ตามรายงานของ Panda (2023) การเติบโตของ SCO สะท้อนให้เห็นถึง “การหลอมรวมพลังแห่งเอเชียกลาง” ที่กลายเป็นเครื่องจักรกลไกใหม่ในการปรับสมดุลอำนาจโลก

1.1 การประชุมสุดยอดในจีน: สัญลักษณ์แห่งการรวมพลัง

ภาพของเหล่าผู้นำ สี จิ้นผิง, วลาดิเมียร์ ปูติน, นเรนทรา โมดี และอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ยืนเคียงกันบนเวทีประชุมสุดยอด SCO ในจีน เปรียบเสมือนภาพสัญลักษณ์ของ “การรวมตัวแห่งอารยธรรมบูรพา” ที่ส่งเสียงกึกก้องถึงตะวันตกว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการจัดระเบียบใหม่

  • จีน: ใช้ SCO เป็นกลไกเสริมพลังโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative: BRI) เพื่อวางเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงแผ่นดินใหญ่เอเชียจากตะวันออกถึงตะวันตก ผลักดันให้เอเชียกลางกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก
  • รัสเซีย: ใช้ SCO เป็นเกราะป้องกันทางการเมืองและตลาดพลังงานทางเลือก ท่ามกลางแรงคว่ำบาตรจากตะวันตก SCO จึงเปรียบเสมือน “โอเอซิสแห่งเศรษฐกิจ” ที่คอยหล่อเลี้ยงระบบพลังงานรัสเซียให้คงชีพ
  • อินเดีย: แสดง “ความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์” (Strategic Autonomy) ด้วยการรักษาสมดุลระหว่างกลุ่ม Quad และ SCO ช่วยให้อินเดียสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทั้งสองขั้วโดยไม่ถูกบีบให้เลือกข้าง (Bajpai, 2024)
  • เบลารุส: การเข้าร่วมของเบลารุสถือเป็น “หมากยุทธศาสตร์” ที่ขยายขอบอิทธิพลของ SCO สู่พรมแดนยุโรปตะวันออก เชื่อมโยงกับพันธมิตรสำคัญของรัสเซียเพื่อท้าทาย NATO และสหภาพยุโรป

1.2 การขยายตัวของ SCO และ BRICS: การร่างทางเลือกใหม่ให้โลก

การขยายสมาชิกภาพของ SCO และ BRICS ไม่ได้เป็นเพียงความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจ แต่คือ “ยุทธศาสตร์การเขียนแผนที่อำนาจโลกใหม่” ที่มุ่งลดบทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของระบบการเงินโลกมานานกว่าครึ่งศตวรรษ การลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) จึงกลายเป็น “กระสุนเงิน” ที่กำลังเจาะทะลวงหัวใจของอำนาจเศรษฐกิจตะวันตก

2. De-dollarization: ยุทธศาสตร์การเงินเพื่อรื้อถอนระบอบตะวันตก

หัวใจของ “แผนลับ” SCO อยู่ที่การกัดกร่อนบทบาทของดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงอำนาจสหรัฐฯ ผ่านระบบ Petrodollar และโครงสร้างการชำระเงิน SWIFT (Eichengreen, 2011)

2.1 การค้าทวิภาคีและการเบี่ยงเบนจากดอลลาร์

  • จีน–รัสเซีย: มูลค่าการค้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่พุ่งสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้เงินหยวนและรูเบิลแทนดอลลาร์ การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่เพียงเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร แต่ยังสะท้อนการสร้างระบบการเงินที่อิสระจากตะวันตก
  • ตลาดน้ำมัน: รายงานของ IEA (2023) ชี้ว่า การค้าพลังงานระหว่างรัสเซียกับจีนและอินเดียได้หันมาชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งเท่ากับการ “ขุดอุโมงค์หลบหนี” จากระบบ Petrodollar อันผูกพันกับดอลลาร์มายาวนาน

2.2 ระบบการเงินคู่ขนานและทองคำ: ปราสาทใหม่ของอำนาจ

  • ทางเลือก SWIFT: กลุ่ม BRICS และ SCO เร่งสร้างระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่ไม่ขึ้นกับ SWIFT อาทิ BRICS Pay” หรือ CIPS” ของจีน เพื่อสร้างอธิปไตยทางการเงิน (BRICS Summit Declaration, 2024)
  • การสะสมทองคำ: ธนาคารกลางของประเทศสมาชิก SCO และ BRICS เพิ่มการถือครองทองคำต่อเนื่อง (IMF, 2025) เพราะทองคำเป็น “สินทรัพย์แห่งความเป็นกลาง” ที่ไม่สังกัดอำนาจการเมืองใด (Carney, 2019)

3. ยุทธศาสตร์บูรณาการ: พลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในฐานะเส้นเลือดใหญ่

3.1 เส้นทางสายไหมพลังงาน: โครงการ Power of Siberia 2

ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Power of Siberia 2 (PoS2) คือหัวใจของความร่วมมือระหว่างรัสเซียและจีน ซึ่งจะส่งก๊าซจากไซบีเรียผ่านมองโกเลียเข้าสู่ตลาดจีน หากสำเร็จ จะพลิกสมดุลพลังงานโลกและลดการพึ่งพาตลาดยุโรปลงอย่างถาวร (Klimenko, 2024)

3.2 ระเบียงเศรษฐกิจจีน–ปากีสถาน (CPEC): เส้นทางหลีกเลี่ยงเชิงยุทธศาสตร์

CPEC คือ “เส้นเลือดทางบก” ที่เชื่อมจีนสู่มหาสมุทรอินเดียโดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเรือสหรัฐฯ (World Bank, 2024) โครงข่ายนี้ไม่เพียงย่นระยะการขนส่ง แต่ยังสร้างความมั่นคงด้านโลจิสติกส์ในยุคที่เส้นทางทะเลอาจกลายเป็นสมรภูมิแห่งอำนาจ

4. อุดมการณ์โลกหลายขั้ว: การท้าทายบรรทัดฐานเสรีนิยมตะวันตก

SCO และ BRICS ไม่ได้เพียงสร้างระบบเศรษฐกิจคู่ขนาน แต่ยังเสนอแนวคิดใหม่ต่อคำว่า “อธิปไตย” และ “ความมั่นคง” ที่สวนทางกับโลกตะวันตก

  • หลักการไม่แทรกแซง: SCO ยึดแนวคิดการเคารพอธิปไตยของรัฐโดยไม่ใช้ “สิทธิมนุษยชน” หรือ “ประชาธิปไตย” เป็นเครื่องมือเปลี่ยนระบอบการปกครอง
  • การขยายขอบเขตของคำว่า ‘ความมั่นคง’: ครอบคลุมถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อสงครามการเงินและข้อมูลข่าวสาร (Tooze, 2018)

การใช้เงินดอลลาร์เป็น “อาวุธทางการเมือง” ของสหรัฐฯ ได้ทำลายภาพลักษณ์ของดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่เป็นกลาง และกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ เร่งสร้างระบบการเงินของตนเอง

5. การปะทะของขั้วอำนาจและการจัดระเบียบโลกใหม่

การรวมตัวของ SCO/BRICS และวาระ De-dollarization เป็นการประกาศ “สงครามเชิงโครงสร้าง” (Structural Conflict) ระหว่างสองระบบอำนาจ

  1. ระบอบเสรีนิยมตะวันตก: เน้นตลาดเสรี สิทธิมนุษยชน และการแทรกแซงเพื่อความมั่นคง
  2. ระบอบรัฐ–อธิปไตยบูรพา: เน้นความมั่นคงแห่งรัฐ การไม่แทรกแซง และการควบคุมเศรษฐกิจโดยรัฐบาล

ความขัดแย้งนี้นำไปสู่การ “แยกห่วงโซ่อุปทานโลก” (Global Decoupling) ซึ่งประเทศขนาดกลางอย่างไทยจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อความอยู่รอด

6. ไทยในสมรภูมิโลกใหม่: นโยบายหลายทิศทางเพื่อความยืดหยุ่น

ประเทศไทยอยู่ในจุดเปราะบางของการเปลี่ยนผ่านระเบียบโลก การตอบสนองอย่างรอบคอบจึงต้องยืนอยู่บนฐานของ “ความยืดหยุ่นเชิงยุทธศาสตร์”

1.) การเงิน: การกระจายความเสี่ยงของสกุลเงินและระบบชำระเงิน

  • ส่งเสริมการค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่น (LCS) ระหว่างไทยกับจีน–อินเดีย
  • เพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ
  • พัฒนาโครงสร้างการชำระเงินเชื่อมโยง CIPS และ BRICS Pay

2.) การค้า–การลงทุน: การสร้างสะพานเศรษฐกิจใหม่

  • ใช้ยุทธศาสตร์ China+1” และ India+1” เพื่อกระจายฐานการผลิต
  • เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบกและดิจิทัล เช่น รถไฟความเร็วสูงและสะพานเศรษฐกิจภาคใต้
  • วางนโยบายเทคโนโลยีแบบ “เป็นกลางทางดิจิทัล” เพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกข้าง

3.) การทูต: ศิลปะแห่งความเป็นกลาง

  • รักษาความสัมพันธ์กับทุกขั้วอำนาจในลักษณะ “ไผ่ลู่ลมในพายุ”
  • เข้าร่วม SCO/BRICS ในฐานะประเทศคู่เจรจา เพื่อเข้าถึงข้อมูลและโอกาสเศรษฐกิจใหม่
  • ใช้บทบาทในอาเซียนเป็นสะพานเชื่อมขั้วอำนาจโลกอย่างสันติ

บทสรุป: ยุคแห่งนวพรมแดนโลก

“นวพรมแดนโลก” ไม่ได้หมายถึงแผนที่ใหม่ของดินแดน แต่คือการรื้อสร้างระเบียบอำนาจและแนวคิดใหม่ของมนุษยชาติ โลกกำลังเคลื่อนจากความเป็นเอกภาพสู่ความหลากหลายของขั้วอำนาจ ที่ซึ่งความมั่นคงมิได้วัดจากกองทัพ หากแต่วัดจากความยืดหยุ่นในการเชื่อมโยง

ในสมรภูมินี้ ผู้ที่ปรับตัวได้เร็วและรู้จักใช้ “ความเป็นกลาง” อย่างสร้างสรรค์ จะไม่เพียงรอดพ้นจากพายุ แต่ยังสามารถเป็นผู้นำในกระแสแห่งโลกใหม่ โลกที่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชี้นำเพียงขั้วเดียวอีกต่อไป

แหล่งอ้างอิง

  1. SCO Charter. (2002). Charter of the Shanghai Cooperation Organisation.
  2. Panda, A. (2023). The Shanghai Cooperation Organisation: From Regional Security Forum to Geopolitical Powerhouse. The Diplomat.
  3. Eichengreen, B. (2011). Exorbitant Privilege: The Rise and Fall of the Dollar and the Future of the International Monetary System. Oxford University Press.
  4. Carney, M. (2019). Breaking the Tragedy of the Horizon: Climate Change and Financial Stability. Bank of England.
  5. Klimenko, E. (2024). Power of Siberia 2 Pipeline: Geopolitics, Energy Security, and the China-Russia Nexus. Energy Policy Journal.
  6. Bajpai, K. (2024). India's Strategic Autonomy in a Multipolar World. Journal of International Affairs, Columbia University.
  7. Tooze, A. (2018). Crashed: How a Decade of Financial Crises Changed the World. Viking Press.
  8. IEA Oil Market Report. (2023). International Energy Agency. Paris.
  9. BRICS Summit Declaration. (2024). 16th BRICS Summit, Kazan, Russia.
  10. IMF World Economic Outlook. (2025). International Monetary Fund. Washington, D.C.
  11. World Bank Report on BRI. (2024). Belt and Road Initiative: Progress and Prospects. World Bank Group.